ครั้งแรกที่ไปฝึกตีปิงปองกับครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ซึ่งเป็นโค้ชทีมชาติเมื่อหลายสิบปีก่อน เรื่องแรกที่ครูจันทร์สอนผมก็คือ การตั้งท่าเตรียมพร้อม ให้รู้จักยืนแยกเท้าออกให้ห่างกันมากกว่าความกว้างของหัวไหล่ เขย่งปลายเท้า ทิ้งน้ำหนักตัวไว้ที่ปลายเท้า ย่อขา ก้มตัว ถ้าตีโฟร์แฮนด์ต้องวางเท้าขวาไว้ห่างจากโต๊ะมากกว่าเท้าซ้าย ถ้าตีแบคแฮนด์ต้องวางเท้าซ้ายไว้ห่างจากโต๊ะมากกว่าเท้าขวา และสอนให้รู้จักการถ่ายน้ำหนักจากเท้าหลังมาเท้าหน้า จะได้ตีลูกปิงปองได้แรงขึ้นโดยไม่ล้มและสามารถย้อนกลับมาตั้งท่าเตรียมพร้อมตีลูกต่อไปได้ทันที ซึ่งกว่าจะปรับวิธีขยับตัวจัดท่าทางและวงเหวี่ยงแขนให้เข้าจังหวะกันได้ก็ต้องฝึกตบลูกโด่งครั้งละหลายชั่วโมง
การฝึกตบลูกที่โยนลูกสูงมาให้โด่งๆนั้น ไม่ใช่ว่าให้ฝึกตบให้แรงและตบฉีกไปจนคู่ซ้อมตีกลับมาไม่ได้ แต่ควรฝึกตบให้คู่ซ้อมยังสามารถโยนลูกกลับมาได้ด้วย เพราะการตีได้ต่อเนื่องกันหลายๆลูกจะช่วยให้ได้เรียนรู้จังหวะการเคลื่อนตัวเข้าหาลูก การถ่ายน้ำหนัก การเหวี่ยงแขนอัดแรงและปล่อยแรงให้เต็มกำลัง ซึ่งยากจะฝึกได้หากตีโต้กันเร็วๆ
ถ้าต้องการตีลูกให้ได้ความแรงเต็มที่ ต้องรู้จักการถ่ายน้ำหนักจากเท้าหลังมาเท้าหน้า
- ในช่วงอัดแรงให้ทิ้งน้ำหนักไว้ที่เท้าหลัง 70% เท้าหน้า 30%
- ในจังหวะลูกกระทบไม้ น้ำหนักเท้าหลังเท้าหน้า 50/50
- ในจังหวะ follow through ปล่อยแรงไปลงเท้าหน้า น้ำหนักจะทิ้งที่เท้าหลัง 30% ไปทิ้งที่เท้าหน้า 70%
ยิ่งกว่านั้นหากต้องการให้แรงจากการถ่ายน้ำหนักเป็นแรงสนับสนุนร่วมกับแรงเหวี่ยงแขนได้เต็มที่ ต้องถ่ายน้ำหนักจากเท้าหลังมาเท้าหน้าตามแนวเส้นตรงขนานให้มากที่สุดกับทิศทางของการตีลูกออกไปอีกด้วย
ภาพซ้ายเป็นการวางเท้าขนานกับเส้นหลังของโต๊ะ จะไม่สามารถบิดเอวและสะโพกไปด้านหลังได้มากนัก และไม่สามารถถ่ายน้ำหนักตัวได้เต็มที่เพราะจะล้มได้ง่าย คนที่ตีท่านี้ต้องออกแรงจากแขนมากกว่าปกติ และจะไม่มีทางเรียนรู้การถ่ายน้ำหนักตัวอย่างเต็มที่ได้เลย
ภาพขวาเป็นการวางเท้าที่ถูกต้อง แรงจากการถ่ายน้ำหนักจากเท้าหลังมาเท้าหน้าจะเสริมกับแรงจากการเหวี่ยงแขนได้เต็มที่ และเมื่อถ่ายน้ำหนักลงเท้าหน้าแล้วก็จะดันน้ำหนักกลับมาเท้าหลังสู่ท่าเตรียมพร้อมได้อย่างรวดเร็ว
นักปิงปองที่ยังถ่ายน้ำหนักไม่เป็นพึงหลีกเลี่ยงการวางเท้าแบบภาพซ้าย สาเหตุที่แชมป์ปิงปองสามารถวางเท้าตามภาพซ้ายมือ เพราะเขามีฟุตเวิร์คที่ดีมากและสามารถถ่ายน้ำหนักอย่างสมบูรณ์เป็นอยู่แล้ว หรือใช้กับการตี loop ซึ่งต้องการส่งแรงจากล่างขึ้นบนมากกว่าตีไปข้างหน้า
ถ้าเอาแต่วางเท้าขนานกับเส้นขอบโต๊ะ เพียงเพราะอ้างว่าจะได้ใช้ท่าเดียวกันนี้ตีได้ทั้งโฟร์แฮนด์และแบคแฮนด์อย่างรวดเร็ว จะติดนิสัยเสียขี้เกียจขยับตัวและไม่รู้จักฝึกฟุตเวิร์คให้คล่อง มีพฤติกรรมชอบเอื้อมแขนเข้าไปหาลูกหรือบิดข้อมือเพื่อปรับหน้าไม้ ส่งผลทำให้ตีลูกได้ไม่แรงและไม่แม่นยำ