เว็บ Table Tennis Tip มีส่วนกระตุ้นให้นักปิงปองเริ่มสนใจวิทยาศาสตร์การกีฬามากขึ้น สังเกตว่าโค้ชปิงปองหลายคนเริ่มต่อท้ายการแนะนำตัวเองด้วยคำว่าวิทยาศาสตร์การกีฬา แม้แต่สมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยก็จัดอบรมวิทยาศาสตร์การกีฬาให้นักปิงปองที่สนใจเมื่อไม่นานมานี้ อนาคตของกีฬาปิงปองไทยดูสดใสมากขึ้น แทนที่จะเล่นกันแบบท่องจำหรือตีตามกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้หันมาใช้เหตุผลมากขึ้น เริ่มถามว่าทำไม เพราะอะไร เพื่ออะไร ที่ไหน เมื่อใด จังหวะใด

ผมสนใจทฤษฎีหรือหลักวิทยาศาสตร์ของกีฬาปิงปองตั้งแต่เริ่มเล่นปิงปองใหม่ๆ ยุคนั้นต้องอ่านตำราเทนนิสกับตำราวิทยาศาสตร์ของจริง จึงเข้าใจว่าการหมุนของลูกปิงปองมีผลต่อวิถีที่ลูกลอยไปและมุมกระเด้งขึ้นของลูกอย่างไร ช่วยทำให้อ่านลูกที่คู่ต่อสู้ตีมาได้ดีขึ้นแทนที่จะดูจากท่าทางการตีหรืออ่านจากสีของยางปิงปองที่ใช้ตีมา พอมาถึงวันนี้อินเตอร์เน็ตช่วยทำให้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ของกีฬาปิงปองได้ง่ายขึ้นมาก ถ้าใครอ่านภาษาจีนออกจะได้เรียนรู้อะไรๆอีกมากมายเพราะจีนได้ทำการศึกษาวิทยาศาสตร์ของกีฬาปิงปองมากกว่าชาติใด

วิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่คนเราค้นพบ เมื่อมีเครื่องมือที่ดีขึ้นช่วยทำให้ศึกษาได้ละเอียดและชัดเจนมากขึ้น ก็จะทำให้ความรู้ใหม่ๆมากขึ้น สิ่งที่เคยคิดว่าจริงอาจไม่จริงตามที่เคยคิดไว้ก็ได้ ดังนั้นอย่ายึดติดกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ว่าต้องถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เสมอไป โดยเฉพาะเรื่องธรรมชาติของคนที่ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่เสมอว่าต้องออกกำลังอย่างนั้นอย่าใช้กล้ามเนื้อแบบนี้ดีที่สุด โค้ชจีนบางคนไม่สนใจการสร้างเสริมกล้ามเนื้อด้วยซ้ำไปเพราะเขาเชื่อว่าการเอาชนะได้นั้นขึ้นกับความฉลาดของนักปิงปองมากกว่า

แม้ปิงปองจะเล่นกันเร็วจนไม่ต้องคิด แต่ที่ไม่ต้องคิดนั้นเกิดจากการฝึกฝนให้คิดจนชำนาญต่างหาก พอเกิดเหตุการณ์ซ้ำตามแบบที่เคยฝึกมาก็สามารถตีโต้กลับไปได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดอีก เหมือนกับถามว่า 2 คูณ 3 เป็นเท่าใด ซึ่งทุกคนตอบได้ทันทีว่าเท่ากับ 6 เพราะจำกันมาจนไม่ต้องคิดแล้ว แต่ถ้าถามใหม่ว่า 7 คูณ 13 เป็นเท่าใด คราวนี้ก็ต้องเสียเวลาคิดแล้วใช่ไหม ดังนั้นโค้ชปิงปองต้องรู้จักสร้างสถานการณ์หลายๆแบบในการฝึก อย่าปล่อยให้นักปิงปองลงแข่งแล้วต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่ตัวเองเพิ่งพบเป็นครั้งแรก

เล่นปิงปองจะสนุกขึ้นมากเมื่อรู้จักอ่านท่าทางของคู่ต่อสู้ที่ทำจนเป็นนิสัย เช่น

  • ถ้าเขาโยนลูกเสริฟสูงหรือเหวี่ยงแขนกว้างๆ คาดการณ์ได้ว่าเป็นลูกยาว
  • ถ้าเสริฟด้วยแบ็คแฮนด์ มักเป็นลูกสั้น
  • ถ้าโยนลูกสูงหน่อย จะหมุนมากหน่อย
  • ในจังหวะอัดแรง ถ้าเขาหันไหล่ซ้ายชี้ไปทางใด ก็จะตีลูกไปทิศทางนั้น
  • เมื่อคุณเสริฟหยอดไปทางโฟร์แฮนด์ เขาก็จะตีกลับมาทางแบ็คแฮนด์
  • ถ้าเขาแลบลิ้น เม้มปาก หรือใช้หางตาเหลือบไปมองทางใด เขามักจะตีลูกหนักและส่งไปอีกทิศหนึ่ง

การคาดการณ์ส่วนสำคัญมาจากผลการกระทำของตัวเอง เช่น พอเสริฟหรือส่งลูกเร็วไปทางแบ็คแฮนด์ของคู่ต่อสู้ เขามักจะโต้กลับมาลงทางแบ็คแฮนด์ของเรา หรือถ้าตีลูกยาวไปทางโฟร์แฮนด์ของคู่ต่อสู้จนเขาเคลื่อนตัวไปจนสุดมุมด้านโฟร์แฮนด์ของเขา ก็มักจะตีโต้กลับมาทางโฟร์แฮนด์ของเราหรือหากเขาส่งลูกตรงมาทางแบ็คแฮนด์ของเราอย่างไรก็ตามย่อมมีวิถีของลูกปิงปองเฉียงมาทางโต๊ะด้านโฟร์แฮนด์ พอคาดการณ์ได้เช่นนี้ก็ต้องขยับตัวไปรอไว้ก่อนทางด้านนั้น ไม่ใช่ว่ารอให้เห็นลูกกระเด้งออกจากไม้แล้วจึงขยับตัวตาม

 

anticipate

 

นอกจากนี้ถ้าเสริฟลูก topspin หรือ sidespin คู่ต่อสู้มักจะรับกลับมาแบบ topspin มากกว่า backspin ดังนั้นไม้สามก็เตรียมบุกกลับโดยไม่ต้องห่วงว่าเขาจะหมุนลูกตัดแบบ backspin หนักๆมาให้เราตีติดเน็ต

Copyright of www.TableTennisTip.com - www.facebook.com/TableTennisTip/

Go to top