สมาธิ หมายถึง ความตั้งใจมั่นให้รู้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวได้ตลอดเวลา เมื่อเกิดสมาธิแล้วจะคิดพิจารณาเรื่องใดก็ย่อมทำได้ชัดเจนมากขึ้น หากไม่มีสมาธิจิตก็จะส่ายไปส่ายมาไปตามสิ่งเร้ารอบข้าง เกิดอารมณ์และแปรปรวนไปตามอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หรือความคิดกังวล จึงยากที่จะมองเห็นคำตอบที่ถูกต้อง

ผู้เล่นกีฬาทุกประเภทต้องใช้สมาธิอยู่เสมอ แชมป์กอล์ฟพอเดินลงสนามเตรียมตัวจะหวดลูกจะมองเห็นภาพที่มีแต่ตัวเขากับสนามและหลุมที่ต้องตีไปเท่านั้น ไม่มีภาพและไม่มีเสียงของคนดูรอบข้าง ซึ่งปิงปองต้องอาศัยสมาธิยิ่งกว่ากอล์ฟอีกเพราะต้องตีลูกปิงปองโต้กันไปมา ไหนจะมีเสียงจากโต๊ะปิงปองและผู้ชมรอบข้าง มีคำตักเตือนจากกรรมการที่ไม่สบอารมณ์ ล้วนเป็นสิ่งที่รบกวนสมาธิทั้งสิ้น เวลาฝึกของนักปิงปองจีนจึงสั่งสอนให้ตีปิงปองต่อไปโดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีลูกปิงปองของคนอื่นกระเด้งมาใต้โต๊ะหรือแม้จะมีใครเดินเข้ามามุดโต๊ะเก็บลูกก็ตาม

 

concentrate

 

อุปสรรคของสมาธิ มี 5 อย่าง

  1. กามฉันทะ ได้แก่ ความอยากเอาชนะ อยากให้คู่ต่อสู้ตีกลับมาตามแผนที่คิดไว้ อยากให้สภาพแวดล้อมรอบตัวเป็นไปตามที่ตนต้องการ
  2. พยาบาท ได้แก่ การคิดเคียดแค้นถึงการพ่ายแพ้ของตนในอดีต ไม่พอใจที่คู่ต่อสู้ใช้มือปิดบังลูกเวลาเสริฟหรือเมื่อถูกกรรมการตักเตือน
  3. ถีนมิทธะ ได้แก่ ความหดหู่ท้อถอย เบื่อหน่ายหมดกำลังพอเจอกับนักปิงปองที่เก่งกว่า หรือตัวเองขาดพละกำลังไม่พร้อมที่จะแข่งขัน
  4. อุทธัจจกุกกุจจะ ได้แก่ ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ คิดไปก่อนว่าคู่ต่อสู้ต้องตีกลับมาแบบนั้นแบบนี้ หรือคิดฝันไปตามสิ่งเร้ารอบข้าง
  5. วิจิกิจฉา ได้แก่ ความลังเลสงสัย ไม่มั่นใจว่าจะเล่นลูกหรือเดินเกมอย่างไร ไม่มั่นใจในพื้นฐานของตน

นักปิงปองต้องผ่านการฝึกฝนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อสร้างความมั่นใจในพื้นฐานความรู้ พละกำลัง และความสามารถของตัวเอง รู้จักวิธีตีปิงปองทุกแบบทั้ง drive, smash, push, flip, และ loop สามารถตีปิงปองได้ทั้งลูกสั้น ลูกยาว สูงกว่าเน็ต หรือต่ำกว่าเน็ต ฯลฯ

พอลงสนามให้ใช้สายตามองไม้คู่ต่อสู้ว่าเขาตีลูกมาอย่างไรเพื่ออ่านลูกหมุนให้ออก จากนั้นมองตามลูกที่ลอยข้ามมาจนกระทั่งลูกและไม้ของคุณกระทบกัน พอลูกลอยออกจากไม้ไปแล้วก็ไม่ต้องมองที่ลูกปิงปองต่อไปอีก แต่ให้มองที่ไม้คู่ต่อสู้แทน

 

1234

 

กำหนดสมาธิมองไว้ที่ลูกปิงปองเท่านั้น อย่าแม้แต่คิดว่าลูกหมุนมาแบบใด เพราะไม่ว่าการคิดเรื่องใดก็ตามจะทำให้สมาธิเสียไป ให้กำหนดจิตไว้ที่ลูกปิงปอง ใส่ใจไว้ที่ลูกปิงปองแล้วตีกลับไปตามความรู้สึก

 

concentrate2

 

ห้ามคิดคาดการณ์ล่วงหน้าว่าคู่ต่อสู้จะต้องตีแบบนั้นแบบนี้หรือตีกลับมาทิศทางใด แต่ต้องอ่านลูกที่ตีกลับมาให้ออกแล้วตัดสินใจประกอบการตีโต้แต่ละทีเท่านั้น ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วมากๆจนเหมือนไม่ได้คิดซึ่งเกิดจากการฝึกฝนซ้ำไปซ้ำมาจนสามารถเลือกวิธีโต้กลับไปได้อย่างอัตโนมัติ เลือกทิศทางการตีกลับไปว่าจะส่งลูกโยกออกไปทางซ้ายหรือทางขวาสุดมือคู่ต่อสู้หรือจะตีอัดเข้าข้อศอกขวา (ให้ตีกลับไปในทิศทาง 3 ตำแหน่งนี้เป็นหลัก) ใช้ความเร็วหาจังหวะจนกว่าคู่ต่อสู้จะเสียสมดุล จึงตีกลับไปแรงๆเพื่อทำคะแนน

ทำจิตให้มีสมาธิอยู่กับปัจจุบัน ไม่เก็บแต้มที่เสียไปมาคิดกังวล ไม่คิดล่วงหน้า รู้จักปล่อยวางและยอมรับปัจจัยที่ตัวคุณควบคุมไม่ได้ ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน ตัดสินใจตามในการตีลูกแต่ละทีเท่านั้น

ระหว่างการฝึกพึ่งกาย 95% จิตเพียง 5% แต่เมื่อแข่งขันจะอาศัยกายเพียง 5% อาศัยจิตถึง 95% กว่าครึ่งในนั้นเริ่มต้นจากความมั่นใจ

Copyright of www.TableTennisTip.com - www.facebook.com/TableTennisTip/

Go to top