"Loop beats chop, chop beats block, and block beats drive"
นี่เป็นสุภาษิตของนักปิงปองชาวจีน
ลูปชนะตัดแบคสปิน เพราะสามารถดึงตีโต้ลูกที่ตัดมา คู่ต่อสู้ที่เป็นมือตัดจะรับลูกที่ลูปหมุนเยอะๆได้ยาก
ตัดแบคสปินชนะบล้อค เพราะบล้อคจะรับลูกแบคสปินกลับไปติดเน็ต
บล้อคชนะการตบหรือท้อปสปิน เพราะสามารถใช้การตั้งหน้าไม้กระเด้งลูกกลับไปได้ง่ายๆ
(Loop ต่างจาก Drive ตรงที่ Loop เน้นความหมุนมากกว่าความแรง ส่วน Drive แม้เป็นการตีแบบท้อปสปินก็ตามแต่เน้นความแรงมากกว่าความหมุน)
ไม่ว่าจะใช้ Loop หรือ Drive ก็ตามต่างเป็นการตีแบบท้อปสปินเหมือนกัน ซึ่งถ้าเจอกับคู่ต่อสู้ที่บล้อคเก่งๆจะถูกคู่ต่อสู้บล้อคลูกโยกซ้ายโยกขวากลับมาได้เสมอ นักปิงปองที่ชอบตีท้อปสปินต้องฉลาดเล่นลูก Dummy Loop สลับกับลูกท้อปสปินตามปกติบ้าง คู่ต่อสู้ที่เอาแต่บล้อคพอเจอ Dummy Loop เข้าก็จะบล้อคติดเน็ต ไม่เช่นนั้นก็จะต้องออกแรงเหวี่ยงไม้ Loop แล้ว Loop อีกจนเหนื่อย
Dummy Loop เป็นการตีโต้ส่งลูกที่หมุนน้อยกว่าปกติหรือไม่หมุนกลับไป โดยใช้ท่าตีที่คู่ต่อสู้อ่านท่าไม่ออก ดูเผินๆก็เหมือนการตี Loop หรือท้อปสปินตามปกติ คู่ต่อสู้จึงปิดหน้าไม้กะว่าจะบล้อคลูกที่หมุนท้อปสปิน แต่เนื่องจากลูกไม่ได้หมุนมาอย่างที่คิด จึงรับลูกติดเน็ตเพราะปิดหน้าไม้มากเกินไป ควรใช้ Dummy Loop หลังจาก Loop ไปแล้ว 1-2 ครั้งเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ตายใจไม่ได้ระวัง
ท่าตี Dummy Loop ต้องทำให้ดูเหมือนท่าตีปกติ โดยอาจใช้จังหวะที่ไม้โดนลูกในวงเหวี่ยงในช่วงหลังจากที่สบัดข้อมือที่เคยใช้ในการปั่นลูกปิงปองให้หมุนมากๆ หรือเลือกให้ลูกกระทบหน้ายางใกล้ๆกับด้ามจับซึ่งมีแรงสบัดน้อยกว่าบริเวณกลางหน้าไม้ หรือใช้วิธีง่ายๆคือตีให้โดนลูกในจังหวะที่ต่ำกว่าโต๊ะซึ่งคู่ต่อสู้มองไม่เห็นว่าเราตีท่าอะไรกลับไป
ดังนั้นนอกเหนือจากการมองท่าทางการตีของคู่ต่อสู้แล้ว นักปิงปองต้องอ่านลูกให้ออกด้วยโดยสังเกตเสียงที่ลูกกระทบไม้ ความเร็วของลูกที่ลอยมา และความหมุนมากน้อยของลูกซึ่งดูได้จากตรายี่ห้อบนลูกปิงปอง
หมายเหตุ วิธีตีแบบ Duumy Loop นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากเป็นยุทธวิธีที่นักปิงปองใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว แต่ไม่ค่อยเห็นใครสอนกันนัก