Equipments
ก่อนโน้นสมัยที่เปิดศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม กกท หัวหมาก ห้องปิงปองไม่ได้เป็นห้องที่อยู่ด้านในสุดอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ตอนนั้นห้องปิงปองก็คือห้องแรกสุดด้านขวามือพอเดินผ่านประตูหน้าเข้ามา(ซึ่งก็คือแบดมินตันในทุกวันนี้) พอมีแข่งขันเอเชียนเกมส์ก็เพิ่มห้องแข่งขันปิงปองเพิ่มอีกห้องหนึ่งอยู่ด้านในสุดซึ่งก็คือห้องปิงปองในปัจจุบันนี้เอง
ห้องปิงปองที่เราได้เล่นกันผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมาก พี่ธีรยุทธ วังอภิวัฒน์ หรือ พี่ยุท หรือ ลุงยุท เล่าให้ฟังว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งห้องปิงปองถูกยึด ถูกแย่งพื้นที่ให้มวยกับยูโดมาใช้จนเหลือโต๊ะปิงปองแค่ 2 ตัว พี่ยุทต้องเดินขึ้นไปฟ้องท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย คุณสันติภาพ เตชะวณิช (อดีตผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ระหว่าง 1 พ.ย. 2544 ถึง 31 ต.ค. 2548)
คุณสันติภาพเดินลงมาดูห้องปิงปองพร้อมกับสั่งการให้จัดพื้นที่ให้เป็นห้องปิงปองเพื่อให้ประชาชนได้มีที่เล่นได้ตามเดิม
นอกจากนี้แล้ว พี่ยุท ยังคอยช่วยดูแลห้องปิงปองเรื่อยมา เน็ตเสีย แผงกั้นลูกชำรุด ปลั้กไฟไม่ทำงาน พื้นยางไม่แน่น นาฬิกาไม่เดิน ก็อาศัยเครื่องมือในกระเป๋าโดราเอมอนสารพัดอย่างของพี่ยุท ขันน้อต ช่วยซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ ทุกวันนี้จะเห็นพี่ยุทคอยยกแผงกั้นมาหมุนเกลียวให้แน่นอยู่เสมอ
พี่ยุทเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่รักการเล่นปิงปองเป็นชีวิตจิตใจ ที่เราได้ห้องปิงปอง มีโต๊ะให้เล่น ต้องขอขอบพระคุณพี่ยุทและคุณสันติภาพ เตชะวณิช เป็นอย่างยิ่ง
ปล พี่ยุทเล่าให้ฟังต่อว่า 4 เดือนมาแล้วได้แจ้งเจ้าหน้าที่กกท ขอให้ช่างพัดลมช่วยมาล้างใบพัดด้านบนกำแพงที่มีฝุ่นจับเขรอะ ติดตามถามมาตลอด ยังไม่คืบหน้า ช่วยกันติดตามให้ด้วยครับ
- ฮิต: 6829
คำแนะนำจากเว็บ http://www.soulspin.tt/en/technology/griffformen.html
คลิกที่ภาพเพื่อ download แผ่นวัดฝ่ามือ
ปกติด้ามไม้ปิงปองยาว 10 ซม ให้วัดขนาดฝ่ามือจากจากปลายฝ่ามือตรงข้อมือถึงโคนนิ้วชี้
ถ้ายาวกว่า 10 ซม ควรเลือกด้ามไม้ที่ยาวและหนา
ถ้ายาวน้อยกว่า ให้เลือกด้ามไม้ที่บางลง
ด้ามไม้ที่จะช่วยให้จับได้กระชับมือ ด้ามฝั่งแบ็คแฮนด์หรือในอุ้งมือควรหน้ากว่าด้ามฝั่งโฟร์แฮนด์ที่นิ้วสัมผัส และทำขอบด้ามให้เอียงลงไปจะได้พลิกมือเล่นท่ายากๆได้ง่ายขึ้น
- ฮิต: 8086
มาดูกันว่านอกจาก Carbon แล้ว ไม้ปิงปองรุ่นใหม่เสริมใยอะไรกันได้อีกบ้าง
- ฮิต: 11163
ไม้ปิงปองที่โฆษณาว่า OFF+ จริงๆแล้วเป็น OFF+ จริงไหม บางไม้ที่เป็น OFF+ ได้ก็เพราะเป็นไม้ที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งผู้เล่นต้องออกแรงเหวี่ยงไม้ที่มีน้ำหนักมากพอควรทีเดียวกว่าจะได้แรงกระเด้งให้สมกับ OFF+ ที่ว่าไว้ ส่วนไม้น้ำหนักเบาที่โฆษณาว่าเป็น OFF+ นั้นเล่า จะเป็น OFF+ ได้จริงก็ต้องออกแรงกระแทกให้มากกว่าปกติ หรือไม่ก็ต้องหายางปิงปองที่กระเด้งมากๆหน่อยมาช่วย
สำหรับไม้ปิงปองยี่ห้อ ITC รุ่น Radix Express เป็นไม้ปิงปองที่เป็น OFF+ โดยปราศจากข้อสงสัย ผมเลือกไม้ปิงปองคราวนี้ใช้น้ำหนักไม้เป็นเกณฑ์ พยายามเลือกไม้ที่ไม่หนักไม่เบาเกินไป ด้วยน้ำหนักไม้เพียง 83 กรัม ทำให้เมื่อนำมาติดยางปิงปองจีนที่มีน้ำหนักมากสักหน่อยรวมแล้วมีน้ำหนักรวมทั้งไม้และยาง 173 กรัม กลายเป็นไม้ปิงปองที่ดีที่สุดของผมไปเลยทีเดียว
คราวนี้ผมลองติดยาง DHS รุ่น Gold Arc III ข้างโฟร์แฮนด์ กับ Tin Arc I ข้างแบ็คแฮนด์ เพราะอยากประหยัดเงินไม่ต้องซื้อยางปิงปองราคาแพงๆมาใช้ ผมจะได้ตัดสินใจเปลี่ยนยางใหม่ได้บ่อยขึ้น ไม่ต้องทนใช้ยางปิงปองเก่าไปนานๆทั้งที่หน้ายางหมดสภาพแล้ว
ไม้รุ่น Radix Express ของ ITC ตีได้สนุกพอๆกันกับ Radix Express ของ Adidas ที่ผมเคยใช้แล้วติดใจมาก่อน เพียงแต่คราวนี้ผมเปลี่ยนมาลองด้ามตรงแทนด้ามหางปลา ตัวด้ามไม้จับได้ถนัดมือมาก ด้วยความแบนราบของหน้าด้ามไม้ที่กว้างกำลังดี ทำให้มือที่กำอยู่รับรู้ถึงมุมหน้าไม้ได้ในตัว ช่วยในการควบคุมทิศทางได้เป็นอย่างดี เพิ่มการรับรู้จากนิ้วชี้และนิ้วโป้งที่ใช้คุมหน้าไม้ได้ในตัว
คุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ Radix Express ชนะใจผมเหนือกว่าไม้ปิงปองอื่นๆ เป็นเพราะความรู้สึกที่ได้รับในขณะตอนที่ลูกกระทบไม้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแค่เสี้ยววินาที แต่ก็ให้ความรู้สึกได้ชัดเจนว่าลูกปิงปองกำลังอยู่บนไม้ (ต่างจากไม้อื่นที่ให้ความรู้สึกเช่นนี้น้อยมากหรือแทบไม่มีเลย) ช่วยทำให้สามารถควบคุมทิศทางการตีลูกได้แม่นยำ นี่คงเป็นเพราะคุณภาพของ RX Carbon และไม้ Hinoki ลายสวยชั้นนอกสุดของหน้าไม้ก็เป็นได้ ซึ่งหน้าไม้นี้หนาเพียง 5.7 มม แต่ทั้ง Adidas และ ITC เลือกสรรไม้ Hinoki คุณภาพดีและหนาพอควรมาใช้กับ Radix Express (ไม่ใช่ใส่ชั้นบางๆแล้วก็โอ้อวดว่าเป็น Hinoki)
ส่วนราคาไม้ Radix Express นี้น่ะหรือ เมื่อเทียบกับคุณภาพกับความสนุกที่ได้ ไม่แพงหรอกครับ คุ้มค่ายิ่งกว่าไม้ปิงปองที่คุยว่าเป็น OFF+ แต่ราคาก้อ +++ ขึ้นไปเสียอีก
- ฮิต: 7744
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้หาซื้อไม้ปิงปองหลากหลายยี่ห้อเกือบสิบไม้มาทดลอง ลงทุนไปหลายหมื่นบาท โดยมีสมมุติฐานสำคัญว่า น้ำหนักไม้ กับ การกระเด้ง มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ถ้าหาไม้ประเภท OFF ถึง OFF+ มาใช้แต่ตัวไม้หนักเบาแตกต่างกันจะส่งผลต่อการตีปิงปองยังไงบ้าง คิดสงสัยในฝันไว้ว่า ถ้าได้ไม้ปิงปองน้ำหนักเบาแต่กระเด้งดี น่าจะดีกว่าไม้ปิงปองที่หนัก จะได้ไม่ต้องออกแรงเหวี่ยงมากนัก
ถ้าได้ไม้ปิงปองที่ดีเหมาะมือในระดับราคาไม่แพงนัก แล้วหันไปใช้ยางปิงปองราคาถูกหน่อย แผ่นละ 500 บาทหรือไม่เกินพันบาท อยากจะเปลี่ยนยางเมื่อไหร่ก้อทำได้ง่ายอย่างสบายใจ เหมาะกับคนที่เล่นปิงปองบ่อยๆจนหน้ายางสึกเร็ว ดีกว่าจะติดยางราคาหลายพันที่ต้องฝืนใช้ไปเรื่อยๆไม่อยากเปลี่ยนยางเพราะเปลืองเงิน
ไม้ปิงปองน้ำหนักเบา ย่อมหนีไม่พ้นไม้ที่ทำจากไม้ Balsa เฉพาะตัวไม้มีน้ำหนักระหว่าง 70 – 77 กรัม หน้าไม้พวกนี้มักจะหนาและด้ามอ้วน พบว่า ต่อให้เป็น OFF+ เมื่อนำไปเล่นจริง แม้จะเหวี่ยงไม้เคลื่อนที่ได้เร็ว แต่หน้าไม้ไม่ได้กระเด้งแรงตามที่ต้องการ ถ้ารับลูกเบาๆแต่ไม่ออกแรง ลูกปิงปองจะหล่นจากหน้าไม้ง่ายๆ กลายเป็นว่าเมื่อใช้ไม้น้ำหนักเบาก็จริง แต่ผู้เล่นต้องออกแรงตีให้เร็วและแรงมากขึ้นตามไปด้วย
ถ้าไม่ใช่ไม้ที่ทำจาก Balsa แต่ต้องการกระเด้งระดับ OFF ถึง OFF+ มักจะเป็นไม้ที่หนักตั้งแต่ 90 กรัมขึ้นไป พอนำมาติดยางปิงปองจากญี่ปุ่นเข้าไปจะมีน้ำหนักยาง 2 ข้างเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 95 กรัม ถ้าใช้ยางจีนจะหนักมากขึ้น แม้จะใช้ตีลูกได้แรงและเร็วโดยไม่ต้องออกแรงเหวี่ยงมากนัก แต่กลายเป็นว่ายากที่จะควบคุมทิศทาง และหากต้องรับลูกเบาๆสั้นๆบนโต๊ะก็มักจะส่งลูกออกไปแรงเกินไปหรือส่งลูกลอยสูงจากเน็ตมากไป ทำให้คู่ต่อสู้บุกสวนกลับมาได้ง่ายเสียอีก
สาเหตุที่น้ำหนักไม้ส่งผลต่อการตีลูกเกิดจากโมเมนตัม คำนวณได้จากสูตร P = M x V เมื่อไม้มีน้ำหนักมากขึ้น ย่อมทำให้โมเมนตัมหรือแรงส่งออกจากหน้าไม้แรงมากตาม ด้วยเหตุนี้ถ้าใช้ไม้เบาก็ต้องออกแรงให้มากขึ้นจึงจะได้โมเมนตัมเท่ากับไม้หนักที่ออกแรงตีค่อยๆ
อย่าไปสนใจสเปคที่ระบุว่าเป็น OFF หรือ OFF+ ให้มากนัก ไม้บางยี่ห้อผลิตรุ่นเดียวกันออกมา แต่ควบคุมคุณภาพการผลิตให้มีน้ำหนักตามที่ต้องการไม่ได้ ก็จะวัดน้ำหนักว่าถ้าหนักมากก็ให้เป็น OFF+ ถ้าหนักน้อยลงมาหน่อยก็ระบุให้เป็น OFF ดังนั้นวิธีเลือกไม้ที่ดีที่สุดควรดูที่น้ำหนักไม้เป็นหลักสำคัญแรกสุด อย่าใช้ไม้หนักหรือเบาเกินไป
ถ้าจะเปลี่ยนไม้ใหม่ ควรเลือกไม้ที่มีน้ำหนักเท่ากับไม้เก่า
องค์ประกอบถัดไปคือตัวชั้น Carbon ถ้าหน้าไม้เป็นแบบ 5+2 หมายถึงเป็นไม้หนา 7 ชั้น มีชั้นที่เป็นเนื้อไม้ 5 ชั้นและเป็น Carbon 2 ชั้น ก็มีให้เลือกว่าจะเป็น Inner หรือ Outer Carbon ถ้าเป็น Inner จะวางชั้น Carbon ประกบไว้กับไม้แกนกลาง ให้ความรู้สึกในการตีได้นุ่มนวลกว่าไม้แบบ Outer ซึ่งวางชั้น Carbon ไว้เป็นชั้นนอกรองจากไม้ชั้นนอกสุด ซึ่งเนื้อไม้ชั้นนอกสุดที่จะให้ความรู้สึกในการตีได้ดีที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นต้องเป็นเนื้อไม้ทำจากไม้ Hinoki
สเปคของไม้ในฝันที่อยากจะได้มาทดลอง ต้องเป็นไม้หนา 7 ชั้นแบบ 5+2 Inner Carbon ที่หน้าไม้นอกสุดเป็น Hinoki น้ำหนักเฉพาะตัวไม้ระหว่าง 80 – 85 กรัม ด้ามตรงแบบ ST ซึ่งที่หาซื้อมาใช้มีหลายยี่ห้อ ราคาตั้งแต่พันกว่าจนเกือบห้าพัน พบว่าไม้ราคาถูกมักจะหนาไปทำด้ามอ้วนมากไป ส่วนไม้ที่หนากำลังดี ด้ามจับเหมาะมือก็กลับมีน้ำหนัก 90 กว่ากรัมขึ้นไปเสียอีก ร้านปิงปองบางร้านเท่านั้นที่เตรียมไม้รุ่นเดียวกันไว้ให้เลือกน้ำหนักตามที่อยากได้
จากไม้ที่ 1 ที่ซื้อหามาทดลองในช่วง 3 เดือนจนถึงไม้ที่ 8 ก็ยังไม่ได้ไม้ที่ถูกใจเสียที เกือบจะหมดกำลังใจตามหาไม้แล้ว พอดีนึกถึงไม้ปิงปองยี่ห้อ Adidas ด้ามหางปลาที่เคยทดลองใช้อยู่พักหนึ่งแล้วถูกใจ แต่ตอนนี้ Adidas เลิกผลิตโดยเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อ ITC แทน ได้ผลิตไม้รุ่น Premier XC ซึ่งตรงกับสเปคที่ต้องการ แถมสามารถหาตัวไม้ที่หนัก 83 กรัมได้ด้วย
Premier XC เป็นไม้ปิงปองที่กระเด้งกำลังดี มีขนาด sweet spot กว้างมาก หน้าไม้มีโครงสร้างและน้ำหนักที่ช่วยทำให้ตีลูกโดนกลางไม้ได้ง่าย นี่เองที่ทำให้เวลาไม้กระทบลูกเสียงจะดังไพเราะมาก ด้ามตรงแบบ ST ที่ได้มาก็จับถนัดมือ ไม่หนาเทอะทะ และมีผิวหน้าของด้ามจะแบน ช่วยทำให้ทราบมุมหน้าไม้ได้ดีเมื่อกำมือ
ที่แปลกเห็นจะเป็นไม้แกนกลางที่มีเนื้อไม้สีเข้มมากกว่าไม้ยี่ห้ออื่น ชั้น Inner Carbon ก็บางทำให้ความหนาของไม้ทั้ง 7 ชั้นรวมกันหนาเพียง 6 มม แม้ไม้มีราคาเกือบสี่พันบาทก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา หน้าไม้นอกสุกก็เป็น Hinoki ที่มีลายสวยเห็นเส้นลายไม้ถี่ขนานกันกว้างเท่าๆกัน คนสร้างไม้นี้ขึ้นมาขายต้องมุ่งรับประกันเรื่องคุณภาพไว้เป็นแน่ มิฉะนั้นคงไม่มีใครกล้าทดลองไม้ยี่ห้อ ITC ที่ยังใหม่ไม่ค่อยมีใครรู้จักกันนักหรอกใช่ไหม
อ่านรายละเอียดของไม้ ITC Premier XC
- ฮิต: 15485
มักได้ยินคำแนะนำให้เลือกไม้ปิงปองที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเอง ซึ่งนักปิงปองส่วนใหญ่มักอยากจะเป็นมือบุก พอขึ้นชื่อว่าบุกเลยเลือกไม้ปิงปองที่กระเด้งมากหน่อย อย่างน้อยต้อง Off หรือ Off+ หรือบางคนที่มั่นใจว่าบุกเก่งก็ใช้ Off++ ไปเลย (Off ย่อมาจากคำว่า Offensive แปลว่า บุก) แต่พอต้องแข่งกับคนที่บุกเก่งกว่า ไม้ปิงปองที่เคยบุกคนอื่นได้ดีก็จะกลายเป็นไม้ที่ใช้รับไม่ได้เรื่องเอาเลย ดังนั้นอย่าคิดแต่ว่าฉันเป็นมือบุกก็ต้องใช้ไม้ปิงปองแบบ Off เท่านั้น อย่าลืมว่า ปิงปองเป็นเกมที่มีทั้งรุกและรับ
คุณสมบัติของตัวไม้ปิงปองแบบบุก ส่วนใหญ่มีน้ำหนักมากพอรวมกับน้ำหนักยางแบบบุกแล้วจะยิ่งหนักขึ้นไปอีก น้ำหนักที่มากนี้เมื่อเหวี่ยงไม้ไปกระทบลูกจะเกิดการถ่ายโมเมนตัมไปที่ลูกปิงปองทำให้กระเด้งออกไปจากหน้าไม้แรงมากกว่าไม้ที่มีน้ำหนักเบา ถ้าเลือกยางที่กระเด้งแรงเกินไปจะกลายเป็นไม้ที่แรงดีแต่ควบคุมได้ยาก ดังนั้นนักปิงปองต้องฉลาดเลือกตัวไม้ให้เหมาะกับยางที่ใช้ด้วย และไม่ควรยึดถือกับผลการทดสอบลองใช้ไม้ปิงปองที่คนนั้นคนนี้ให้คำแนะนำให้มากนักเพราะยากที่จะหาใครที่ใช้ไม้และยางตรงกันกับที่คุณใช้
เด็กนักปิงปองญี่ปุ่นหรือเพิ่งฝึกตีปิงปอง เขาจะแนะนำให้ใช้ตัวไม้ปิงปองที่เน้นการควบคุมไว้ก่อน ส่วนยางก็จะแนะนำให้ใช้ Yasaka Mark V หรือ Sriver เป็นหลัก และห้ามฝึกใช้ยางเม็ดเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อฝึกให้เรียนรู้เรื่องความหมุน ความแรง และวิธีการควบคุมความหมุนกับความแรงให้ชำนาญ
แทนที่จะเลือกใช้ไม้ปิงปองที่มีน้ำหนักมาก เทคโนโลยียุคใหม่สามารถสร้างตัวไม้ปิงปองและยางปิงปองที่เบากว่าแต่ก่อน ตัวไม้อาจมีน้ำหนักไม่ถึง 80 กรัม แต่ยังมีคุณสมบัติแบบ Off ได้ไม่น้อยหน้ากับไม้ปิงปองที่มีน้ำหนักมาก ช่วยทำให้นักปิงปองไม่ต้องออกแรงเหวี่ยงเหนื่อยแบบเดิมอีกต่อไป ที่สำคัญไม้รุ่นนี้มักมีราคาที่ถูกมากๆอีกด้วย (เปรียบเทียบน้ำหนักตัวไม้แต่ละยี่ห้อได้จาก https://www.megaspin.net/store/compareblades.asp ดูน้ำหนักยางปิงปองได้จาก http://www.tabletennisdb.com/top-rubber/weight-asc.html)
เวลาเลือกตัวไม้ปิงปอง ก่อนอื่นให้ดูที่ลายเส้นของเนื้อไม้ว่ามีลายถี่สม่ำเสมอกันทุกจุด นำไม้ที่เลือกไว้มาชั่งน้ำหนักเทียบกันว่าไม้ไหนเบาที่สุด จากนั้นให้ใช้สันนิ้วเคาะลงไปที่หน้าไม้แล้วฟังเสียงว่าดังต่างกันแบบไหน บางคนใช้วิธีเดาะลูกปิงปองแล้วฟังเสียงก็ได้ อย่าเชื่อที่โฆษณาประกาศว่าเป็น Off หรือ Off+ แต่ให้เชื่อจากการทดสอบของตัวเอง ตัวไม้ที่เคาะแล้วมีเสียงดังแหลมๆจะกระเด้งได้แรงกว่าและกระด้างกว่าเสียงทุ้มๆ
ซึ่งถ้าอยากได้ไม้ที่เล่นแล้วให้ความรู้สึกดีควรเลือกไม้ที่มีเสียงทุ้มๆ อีกทั้งจะช่วยทำให้เลือกยางปิงปองได้หลากหลายมากกว่าไม้ที่มีเสียงแหลมๆ แต่ถ้าเลือกไม้ที่มีเสียงแหลมๆก็ไม่ควรเลือกยางที่กระเด้งแรงเพราะจะแรงเกินไป
ด้ามไม้แบบหางปลาหรือแบบ FL ที่จับแล้วรู้สึกว่าถนัดดีอาจเป็นด้ามไม้ที่ไม่เหมาะกับการตีท่าที่ต้องปรับหน้าไม้ก็ได้ ด้ามไม้แบบหางปลามักล้อคเข้ามือในท่าตีโฟร์แฮนด์แต่พอตีท่าอื่นๆจะควบคุมหน้าไม้ยาก ต่างจากด้ามไม้แบบตรงหรือแบบ ST ซึ่งสามารถขยับนิ้วเพื่อปรับหน้าไม้ได้ง่ายกว่า ซึ่งแชมป์ปิงปองกว่าครึ่งนิยมใช้ด้ามไม้แบบตรง
- ฮิต: 22012