วิ่ง เป็นการออกกำลังที่ทุกคนวิ่งเป็นกันตั้งแต่เด็ก แต่วิธีวิ่งในท่าทางที่ถูกต้องนั้นต่างจากวิธีที่หลายคนวิ่งกันอยู่ หลายคนตั้งใจวิ่งเพื่อออกกำลังแต่กลับกลายเป็นการทำลายหัวเข่าหรือทำให้เกิดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น
โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ห่างเหินจากการออกกำลังมานานทำให้ขาไม่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเพียงพอ ส่งผลทำให้เวลาวิ่งก็จะต้องทิ้งน้ำหนักลงที่ข้อเข่าโดยตรงหรือกระดูกหัวเข่าโดยไม่มีกล้ามเนื้อมารองรับแรง พอวิ่งได้สักพักก็จะปวดเข่า เมื่อหาหมอแล้วผ่าหัวเข่าจะพบขี้เลื่อยจากกระดูกหัวเข่าที่บดกันจนละเอียด
ก่อนจะวิ่งต้องบริหารเตรียมกล้ามเนื้อขาให้พร้อมก่อนโดยการฝึกเดิน และก่อนจะวิ่งทุกครั้งต้องยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ร่างกายพร้อมต่อการออกกำลัง
ท่าวิ่งที่ถูกต้องมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
- ลำตัวตรง เอนตัวเล็กน้อยไปข้างหน้า ศีรษะตรง มองไปข้างหน้า ไม่ใช่เอาแต่มองเท้าตัวเอง อย่างอตัวไปข้างหน้าหรือด้านหลังที่เอว ปล่อยหัวไหล่ตามสบายให้มีระดับขนานกับพื้น
- ก้าวในระยะพอดีๆ อย่าก้าวยาวเกินไปจนขาเหยียดตรง
- ทิ้งน้ำหนักลงที่ฝ่าเท้า (ball of your feets) แล้วเลื่อนน้ำหนักไปที่ปลายนิ้วเท้า อย่าทิ้งน้ำหนักลงที่ปลายเท้าเพราะจะทำให้เอ็นเท้าบาดเจ็บ อย่าทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้าเพราะแสดงว่าคุณก้าวเท้ายาวเกินไปจนขาเป็นเส้นตรง
- ปลายเท้าชี้ตรงไปด้านหน้า เมื่อเท้าเหยียบพื้นแล้วให้ดีดลากเท้าไปด้านหลังเพื่อส่งลำตัวไปด้านหน้า อย่าวิ่งแบบกระโดดหรือยกเข่าสูงเกินไป
- ปล่อยมือตามสบาย วางไว้ในระดับเอว
- งอแขนในมุมประมาณ 90 องศา แล้วเหวี่ยงที่หัวไหล่กลับไปกลับมาไปทางด้านหลังขนานกับลำตัว ไม่ใช่เหวี่ยงแขนไปข้างหน้าหรือไขว้ไปมาบนหน้าอก ไม่ยกไหล่ขึ้นลง
- หายใจลึกๆเป็นจังหวะโดยผ่านจมูกหรือปากก็ได้ อย่าหายใจเร็วเกินไป โดยอาจหายใจรอบหนึ่งต่อการก้าวเท้าสองครั้งหรือมากกว่านั้นก็ได้
เมื่อวิ่งเสร็จ ให้เดินออกกำลังแบบเบาๆต่ออีกสักพักแล้วยืดเส้นยืดสายอีกครั้ง