ครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ สอนว่า เวลาที่ตีปิงปองต้องฝึกตีให้เร็วกว่า แรงกว่า และแม่นยำกว่าคู่ต่อสู้เสมอ
บนโต๊ะปิงปองที่ใช้ฝึกที่ใต้ถุนอัฒจันทร์ยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติที่ปทุมวันสมัยนั้นมีเส้นขาวขีดไว้เป็นช่องๆไว้สำหรับเล็งตีให้ลงในช่องที่ต้องการ ถ้าตีได้เร็วกว่า แรงกว่า แต่ไม่แม่น ก็เหมือนกับตีลูกแล้วเสียคะแนน การฝึกจึงต้องเริ่มต้นจากการตีลูกช้าและไม่แรงนักก่อน พอตีได้แม่นยำแล้วครูจันทร์สอนให้ฝึกตีให้เร็วขึ้น พอลูกกระเด้งขึ้นมาได้ระดับเน็ตสูงพอจะตีข้ามเน็ตได้แล้วให้ตีเลยอย่ารอช้า จากนั้นให้เพิ่มความแรงและความหมุนของลูกมากขึ้นเรื่อยๆ คู่ฝึกซ้อมต้องคอยปรับจังหวะให้สามารถฝึกตีโต้กลับไปกลับมาได้หลายๆครั้ง ไม่ว่าจะตีโต้โฟร์แฮนด์หรือฝึกตีโฟร์แฮนด์สลับกับแบคแฮนด์ก็ต้องเร็วขึ้น แรงขึ้น และหมุนมากขึ้นไปเรื่อยๆโดยต้องยังคงตีได้อย่างแม่นยำด้วย
คุณศรีชัย วัจนเจริญรัตน์ กับโต๊ะปิงปองยี่ห้อ Dunlop อย่างดีที่ใช้ฝึกที่ใต้ถุนอัฒจันทร์ยิมเนเซียม 1
สังเกตปลายโต๊ะปิงปองที่มีเส้นสีขาวขีดเป็นทางม้าลายเอาไว้เป็นตำแหน่งที่ต้องฝึกตีให้ลงทุกลูก
นอกจากจะต้องเร็วกว่า แรงกว่า หมุนกว่า และแม่นยำกว่าคู่ต่อสู้แล้ว ยังต้องฝึกพลิกแพลงอีกหลายอย่าง สรุปได้ดังนี้
- เร็วกว่า บางลูกไม่ต้องรอให้กระเด้ง ให้ตีแบบ half-valley ในจังหวะที่ลูกตกบนโต๊ะได้เลย และต้องฝึกวางเท้าและขยับเท้าให้เร็ว
- แรงกว่า โดยฝึกถ่ายนำหนักตัวอย่างเต็มที่พร้อมกับ follow through ส่งลูกไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
- หมุนกว่า และปรับให้หมุนมาก หมุนน้อย หรือไม่หมุน และปรับทิศทางการหมุน
- เลียดเน็ต
- ตีลูกยาวลูกสั้น ลึกมากๆ หรือสั้นมากๆ
- โยกมุมซ้ายขวา
- รู้จักหลอกตำแหน่งการตี อย่าให้คู่ต่อสู้ไหวทันหรือคาดการณ์ได้ว่าเราจะตีไปทางไหนและตีอย่างไร