"ปิดหน้าไม้ให้มากขึ้น"
"อย่าเปิดหน้าไม้อย่างนั้นซิ"
"ออกแรงตีให้เร็วกว่านี้อีก"
แน่เลยว่าหลายคนที่เล่นปิงปองต้องเคยได้รับคำแนะนำแบบนี้มาก่อน เป็นคำแนะนำง่ายๆที่ใครๆก็คิดกันได้เพราะถ้าตีลูกออกก็ต้องปิดหน้าไม้ให้มากขึ้น ถ้าตีรับลูกบนโต๊ะแล้วโด่งไปก็ต้องปรับมุมหน้าไม้อย่าหงายเกินไป ถ้าตีแล้วไม่ถึงเน็ตก็ต้องออกแรงตีมากขึ้น ถ้าจะสู้กับลูกหมุนก็ต้องตีหมุนให้มากกว่าลูกที่ลอยมา เด็กๆก็ตอบได้
หากเป็นคำแนะนำของโค้ชกำลังให้การฝึกสอนนักปิงปองอยู่ก็ว่าไปอย่างเพราะเขากำลังฝึกซ้อมท่าใดท่าหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ถ้าเป็นคำแนะนำของคนดูที่อยู่ดีๆก็ทำไม้ทำมือพร้อมกับอุตส่าห์ออกเสียงให้คำแนะนำแบบนี้ล่ะก้อ ผู้ให้คำแนะนำควรคิดให้ดี คิดให้ละเอียด มองเหตุการณ์ให้รอบคอบก่อนดีกว่า แม้จะทำไปด้วยความหวังดีก็ตามเพราะอาจกลายเป็นการดูถูกฝีมือกันและเป็นการก่อกวนทำให้เสียสมาธิที่เขากำลังมุ่งมั่นแข่งขันกันอยู่
ปิงปองเป็นกีฬาที่มีเหตุและผลของตัวเอง ถ้าลูกที่ลอยมาเป็นลูกท้อปสปินหมุนจัดมามากๆ โดยทั่วไปมักแนะนำให้ปิดหน้าไม้เยอะๆจะได้กันไม่ให้ลูกกระเด้งกลับไปลอยสูงเกินไปจนไม่ลงโต๊ะ ซึ่งจะเป็นไปได้ต่อเมื่อทำไปในจังหวะที่ลูกกำลังกระเด้งขึ้นจนถึงจุดสูงสุด หากตีลูกในจังหวะที่กำลังตกลงแล้วดันปิดหน้าไม้มากไปแล้วไม่ได้ปรับวงสวิงตามไปด้วยก็จะทำให้ตีลูกติดเน็ต
ถ้ากำลังเล่นกับยางเม็ดแล้วตีลูกหมุนไปหาเขา ลูกที่ลอยกลับมาก็จะเป็นลูกที่หมุนฝีมือของตัวเองย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ดังนั้นการฝึกเล่นเพื่อเอาชนะยางเม็ดที่ส่งลูกไม่แรงข้ามมา ต้องไม่ตั้งหน้าไม้ปิดนักหรือแทบจะตั้งฉากเสียด้วยซ้ำแล้วใช้วงสวิงผลักลูกกลับไปแบบไม่หมุนและไม่แรงมาก เพื่อทำให้คนที่เล่นยางเม็ดต้องเดินเข้ามาใกล้โต๊ะและออกแรงของเขาเองตีกลับมา อย่าใช้แรงตีไปให้เขาอาศัยแรงของเราย้อนกลับมา ดังนั้นจะมองง่ายๆแล้วให้คำแนะนำเหมือนกับการเล่นกับยางเรียบจึงไม่เหมาะ
คำแนะนำจะไร้ความหมายหากเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดซ้ำอีก นักปิงปองต้องคอยอ่านลูกที่คู่ต่อสู้ส่งมาแบบลูกต่อลูก ไม่ใช่ว่าจะยึดคำแนะนำที่บอกให้แก้อย่างนั้นปรับแบบนี้แต่ไม่เหมาะกับลูกที่ลอยมาต่างแบบไปจากเดิม