ตามปกติท่าตีแบ็คแฮนด์ ในขณะที่เหวี่ยงแขนจากซ้ายไปขวา เราถูกสอนกันมาว่าให้ถ่ายน้ำหนักจากเท้าซ้ายมาเท้าขวา โดยจุดที่ไม้กระทบลูกปิงปองอยู่ค่อนไปทางซ้ายของลำตัว แต่ถ้าตำแหน่งที่ยืนตั้งท่ารับลูกนั้นค่อนออกไปทางซ้ายมือของโต๊ะอยู่แล้วล่ะ ลูกที่ส่งมาหาเราแทบไม่มีทางที่จะอยู่ทางซ้ายของลำตัวได้เลย ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณกลางตัวหรือค่อนออกมาทางขวานิดๆเสียด้วยซ้ำ หากเป็นแบบนี้แล้วยังจำเป็นต้องถ่ายน้ำหนักจากขาซ้ายมาขวาอยู่อีกหรือ
จากภาพนี้สังเกตว่า จุดที่ไม้กระทบลูกอยู่กลางตัว แทนที่จะใช้วิธีถ่ายน้ำหนักจากเท้าซ้ายมาขวาหรือขวามาซ้าย Ma Long ใช้วิธีพับเอวลงตรงๆเพื่อย่อขาท่อนบนแล้วดีดตัวขึ้นมาจากเท้าทั้งสองข้างพร้อมกันเพื่อส่งแรง (แต่ไม่ได้ย่อขาท่อนล่างลงไปจากเดิม)
ส่วนมุมท่อนแขนตรงข้อศอกในจังหวะอัดแรงดูเหมือนเป็นมุมฉากไว้ตลอดเวลา โดยจะเหวี่ยงหัวไหล่ให้ข้อศอกมาขนานกับลำตัวตรงเอวด้านขวา ช่วงนี้หน้าไม้ปิงปองจะถูกอัดเข้าหาพุงเพื่ออัดแรง จากนั้นพอดีดตัวขึ้นก็จะเหวี่ยงแขนท่อนบนตามออกไปด้านหน้า ตามด้วยแขนท่อนล่างที่จะเหวี่ยงขึ้นมาเพียงเล็กน้อยแล้วยืดแขนออกไปข้างหน้า สุดท้ายข้อมือจึงสะบัดออกไปตามแรงโมเมนตัมที่ส่งออกมา โดยจังหวะที่ไม้กระทบลูกจะเป็นช่วงที่ไม้เคลื่อนที่เร็วที่สุดพอดีและมีทิศทางที่กดหน้าไม้ลง (ไม่ได้เหวี่ยงขึ้นอีก) จึงทำให้ส่งลูกออกไปได้แรงและเร็วมาก
ในจังหวะอัดแรง ให้ใช้กล้ามเนื้อของหัวไหล่ดึงข้อศอกกลับมาไว้ด้านข้างลำตัว ทำให้มีระยะทางให้อัดแรงได้มากขึ้นกว่าการวางข้อศอกไว้หน้าลำตัว พอปล่อยแรงก็ดันข้อศอกออกไปตรงๆ คล้ายกับท่าตีศอกเสยขึ้นของมวยไทย
ถ้าอยากจะเลียนแบบท่านี้หรือท่าอื่นใดก็ตามของนักปิงปองจีน อย่าลืมว่า Ma Long สูง 175 ซม ดังนั้นท่าของเขาที่เห็นว่าเหวี่ยงไม้ลงไปที่พุงนั้น ระดับของไม้ยังไงๆก็ยังไม่ได้ต่ำกว่าระดับโต๊ะ ถ้าคนตัวเตี้ยกว่านี้ต้องอย่าเหวี่ยงไม้ลงไปต่ำนัก ท่าทางอาจจะทำได้เหมือนแต่อานุภาพห่างคนละชั้นกันเพราะความสูงนี่เอง