ปิงปองยุคนี้เอาชนะกันด้วยลูกท้อปสปินเป็นหลัก พอรับลูกที่ท้อปสปินมาแล้วกระเด้งออกไม่ลงโต๊ะก็มักแนะนำให้บล้อคโดยปิดหน้าไม้คว่ำลงให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ถูกต้องแต่อธิบายไม่ครบ เพราะถึงจะปิดหน้าไม้แล้วยังต้องใส่ใจว่ากระทบลูกในจังหวะไหนและออกแรงโต้กลับไปอย่างไรในทิศทางของหน้าไม้เช่นใดด้วย
จากภาพบนรูปแรก ตามปกติถ้ารับลูกปิงปองที่ไม่หมุนโดยตั้งหน้าไม้ให้ตั้งฉากกับโต๊ะไว้
- ถ้าไม้กระทบลูกในจังหวะที่ลูกกำลังกระเด้งขึ้น ลูกปิงปองก็จะกระเด้งออกจากไม้เป็นมุมขึ้นอยู่แล้วตามเส้นสีน้ำตาล พอเจอลูกที่มุมท้อปสปินมาจะมีแรงผลักทำให้มุมกระเด้งออกจากไม้เงยขึ้นกว่าเดิมอีกตามเส้นสีเขียว
- ถ้าไม้กระทบลูกในจังหวะที่ลูกกระเด้งขึ้นสูงสุด ลูกปิงปองก็จะกระเด้งออกจากไม้เป็นมุมขนานไปข้างหน้าตามเส้นสีน้ำตาล พอเจอลูกที่มุมท้อปสปินมาจะมีแรงผลักทำให้มุมกระเด้งออกจากไม้เงยขึ้นกว่าเดิมอีกตามเส้นสีเขียวแต่จะเป็นมุมเงยน้อยกว่าการกระทบลูกในจังหวะกระเด้งขึ้น
- ถ้าไม้กระทบลูกในจังหวะที่ลูกกำลังกระเด้งลง ลูกปิงปองก็จะกระเด้งออกจากไม้เป็นมุมลงตามเส้นสีน้ำตาล พอเจอลูกที่มุมท้อปสปินมาจะมีแรงผลักทำให้มุมกระเด้งออกจากไม้เงยขึ้นตามเส้นสีเขียว โดยเป็นมุมเงยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จังหวะที่โต้กลับลูกท้อปสปินได้ง่ายที่สุดคือตีลูกในจังหวะที่ลูกกำลังกระเด้งลง เพราะมุมของลูกที่กระเด้งลงจะหักล้างกับอิทธิพลของลูกที่หมุนมาแบบท้อปสปินไปในตัว แต่การตีโต้ช้าลงจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งขันบุกกลับมาได้อีก ดังนั้นจึงต้องหาทางโต้กลับไปให้เร็วที่สุดโดยตีกลับไปในจังหวะที่ลูกกำลังกระเด้งขึ้นหรือที่จุดสูงสุดเป็นอย่างช้าที่สุด ซึ่งเป็นจังหวะที่ลูกกำลังหมุนแรงและมีแรงดีดออกจากโต๊ะแรงมาก นักปิงปองจึงต้องรู้จักอ่านแรงและความหมุนของลูกปิงปองที่ส่งมาให้ออกว่าจะปิดหน้าไม้มากน้อยเพียงใดและต้องออกแรงโต้กลับไปหรือบางครั้งอาจต้องถอยหน้าไม้กลับเพื่อลดแรงสะท้อนกันเลยทีเดียว
ถ้าตีลูกในจังหวะกระเด้งลงโดยคว่ำหน้าไม้ด้วย ย่อมยากจะตีโดนลูก และถ้าลูกที่ส่งมาหมุนไม่มากหรือไม่หมุนเลยก็จะตีติดเน็ตได้ง่ายๆ
ถึงจะตั้งหน้าไม้ให้ดีแล้วและออกแรงได้ถูกต้องแล้ว ข้อผิดพลาดที่ทำให้ลูกยังกระเด้งออกไปไม่ลงโต๊ะมักเกิดจากนักปิงปองไม่ได้ตั้งหน้าไม้ไว้เฉยๆแต่กลับเผลอเหวี่ยงหน้าไม้สวนกลับไปด้วย ตามรูปที่สองด้านล่างหากเหวี่ยงหน้าไม้ส่งแรงแบบเฉือนผิวลูกออกไปเหมือนกับจะท้อปสปินสวนกลับไปแค่ขยับไม้ไปนิดเดียวก็ตาม แรงที่หน้าไม้ส่งออกไปจะสวนทิศทางกับการหมุนของลูกที่ท้อปสปินมาทำให้แรงจากการหมุนท้อปสปินมีอิทธิพลต่อยางปิงปองมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
หากจะโต้กลับลูกท้อปสปินแบบบุกกลับด้วยลูกท้อปสปินโดยตีกลับไปในจังหวะที่ลูกกำลังกระเด้งขึ้น ต้องตั้งหน้าไม้ให้ปิดมากๆจนเกือบจะขนานกับพื้นโต๊ะทีเดียว อีกวิธีหนึ่งให้กระแทกส่งแรงผ่านจุดศูนย์กลางของลูกปิงปองกลับไปซึ่งเรียกว่า Punch Block หรือจะเลี่ยงไปโต้กลับแบบ Sidespin โดยตีลูกปิงปองให้โดนที่ขั้วของการหมุนซึ่งแรงจากการหมุนมีอิทธิพลน้อยที่สุด
ในการฝึกช่วงแรกควรฝึกตั้งหน้าไม้ไว้เฉยๆก่อนจนกว่าจะคุ้นเคยว่าต้องปิดหน้าไม้มากน้อยเพียงใดในลูกที่กระเด้งจังหวะใด เมื่อสามารถควบคุมความแรงและตำแหน่งที่ลูกลงโต๊ะได้แล้วจึงฝึกบุกกลับ โดยเฉพาะนักปิงปองทีใช้ยางที่กระเด้งแรงและหมุนแรงๆต้องฝึกจนตัวเองเข้าใจสามารถควบคุมการกระเด้งของยางปิงปองของตัวเองได้เชื่องก่อน