การเป็นโค้ชสอนปิงปองใช่ว่าจำกัดแค่เจ้าตัวควรเคยเล่นเก่งเป็นแชมป์มาก่อน ถ้าเอาแต่สอนปิงปองเป็นอย่างเดียวแต่ใช้จิตวิทยาไม่เป็น ติดสอนปิงปองแบบผู้ใหญ่ที่ชอบสอนเด็กๆว่า ห้ามทำอย่างนั้นห้ามทำอย่างนี้ หรือเอาแต่ตำหนิลูกศิษย์ว่า ตีไม่เห็นได้เรื่อง คิดกันว่าการติเพื่อก่อจะช่วยทำให้ลูกศิษย์สำนึกในความผิดพลาดของตัวเองแล้วจะพยายามปรับการเล่นให้ดีขึ้น จะกลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ฝึกปิงปองไม่พัฒนาไปถึงไหน
โค้ชต้องรู้จักให้กำลังใจกับนักปิงปอง ควรมองให้เห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่ของแต่ละคนแล้วหาทางผลักดันให้ลูกศิษย์นำศักยภาพนั้นมาใช้ให้เต็มกำลัง แทนที่จะพูดย้ำแล้วย้ำอีกถึงสิ่งที่ทำผิด ควรชมก่อนเพื่อให้กำลังใจว่าท่าตีที่ใช้อยู่นั้นดีอย่างไรและจะดียิ่งขึ้นด้วยการปรับปรุงอย่างไร
ถ้าสอนว่า อย่าปิดหน้าไม้มากไป จะทำให้นักปิงปองเอาแต่คิดว่าต้องไม่ปิดหน้าไม้มากไป ภาพที่นักปิงปองคิดในสมองถึงการปิดหน้าไม้ที่ห้ามทำนั่นแหละที่จะทำให้นักปิงปองปิดหน้าไม้อยู่ดีทั้งๆที่บอกตัวเองว่าอย่าปิดหน้าไม้ โค้ชควรพูดอีกแง่หนึ่งว่า ให้เปิดหน้าไม้ให้มากขึ้น พูดสอนแต่วิธีการตีปิงปองที่ถูกต้องอยู่เสมอ
หากนักปิงปองยังมีจุดอ่อนหรือใช้ท่าทางการตีที่ผิดพลาดอยู่ ก็จำเป็นต้องชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดเหล่านั้น แต่ต้องเลือกกาลเทศะที่ดีช่วงที่นักปิงปองกำลังสดชื่นแจ่มใส ติดตามด้วยการพูดให้กำลังใจเพื่อกระตุ้นให้นักปิงปองไม่เอาข้อผิดพลาดของตนมาคิดกังวล แล้วแนะนำวิธีการแก้ไขให้ถูก โดยโค้ชต้องให้กำลังใจตลอดเวลา
กำลังใจไม่ได้เกิดจากโค้ชเท่านั้น แชมป์ปิงปองระดับโลกแต่ละคนมีความคิดอ่านอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน เขาจะคิดในแง่บวกอยู่เสมอเพื่อเป็นกำลังใจกับตัวเอง ถ้ามีเรื่องมารบกวนใจก็จะหามุมมองเปลี่ยนเป็นเรื่องที่ให้คุณประโยชน์แทน