นับวันอากาศของประเทศไทยยิ่งผันผวนคาดการณ์ได้ยากกว่าแต่ก่อน พอหน้าร้อนก็ร้อนจัดอุณหภูมิขึ้นไป 39 องศาเซลเซียสหรือในห้องฝึกปิงปองที่ไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศน่าจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่านี้อีก ร้อนเท่านั้นยังพอแต่ยังมีความชื้นสูงอีกด้วย ถ้าสังเกตก้อนกาวปิงปองที่ลอกออกมาปั้นวางไว้ยังเหนียวละลายเยิ้มออกมา จึงไม่แปลกเลยหากนักปิงปองไทยที่อุตส่าห์ฝึกซ้อมกันอย่างหนักกลับตีไม่ออกเมื่อเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ หรือเมื่อต้องแข่งขันในโรงยิมที่ติดเครื่องปรับอากาศก็ตีลูกผิดจังหวะไปหมด
The ideal room temperature of Table Tennis is 15-20°C with a relative humidity of 40-50%. adequate ventilation; any condensation will make the floor slippery and will cause the ball to slide off the racket if youre using reverse rubber. If there are any air conditioning units, youll also need to ensure that they dont cause any air currents which will deflect the flight of the ball.
ด้วยอุณหภูมิที่สูงต่างกันเกือบเท่าตัวระหว่างอุณหภูมิภายนอกของไทยกับมาตรฐานของห้องปิงปอง จะส่งผลต่อสภาพร่างกายของนักกีฬาทำให้เหนื่อยง่าย เหงื่อออกมากกว่าปกติ ต้องทานน้ำบ่อยขึ้น พอร่างกายต้องเจอกับอุณหภูมิที่ต่างกันกับที่คุ้นเคย หากเดินทางไปแข่งขันแล้วไม่มีเวลาได้ปรับตัวก็ย่อมส่งผลเสียอย่างมาก แค่ความชื้นที่แห้งต่างกันก็จะทำให้เหงื่อที่ไหลออกมานั้นแห้งเร็วขึ้นจนผิวหนังรู้สึกแสบได้ทีเดียว ถ้าห้องมีความชื้นมากก็จะทำให้ลูกปิงปองเปียกจนตีติดเน็ตบ่อยๆและพื้นลื่น ส่วนไม้ปิงปองที่ไม่ได้เป็นไม้ธรรมชาติล้วนแต่แทรกชั้นที่ทำจากวัสดุอื่นก็ย่อมกระเด้งต่างไป
ความร้อนจะทำให้ลูกปิงปองกระเด้งมากกว่าปกติเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้อากาศในลูกปิงปองมีความดันมากขึ้น และความร้อนยังทำให้วัสดุของลูกปิงปอง ยางปิงปอง และกาวที่แปะยางไว้กับไม้ปิงปองเสื่อมสภาพอีกด้วย ความร้อนทำให้ผิวหน้าของยางปิงปองเสียแรงเสียดทาน ส่วนความเย็นจะทำให้ยางแข็งตัวแล้วไม่คืนสภาพเดิมทำให้ความกระเด้งเสียไป ดังนั้นนักปิงปองที่เดินทางไปแข่งขันด้วยเครื่องบินควรนำไม้ปิงปองใส่กระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย ห้ามใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางที่บรรทุกลงใต้เครื่องบินซึ่งต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่เย็นจัด