หากหลับตาแล้วฟังเสียงนักปิงปองที่ผ่านการฝึกเบสิคมาอย่างดีซ้อมตีลูกกันไปมา เสียงที่ลูกปิงปองกระทบไม้จะเพราะเหลือเกิน เสียงที่ไพเราะก้องกังวานนั่นแสดงว่า นอกจากตีลูกโดนจุดกลางไม้ที่เรียกว่า Sweet Spot แล้ว ลูกปิงปองที่วิ่งมากระทบไม้จะอยู่บนหน้าไม้ในระยะเวลานานอย่างพอเหมาะ ซึ่งเรียกว่า Dwell Time ลูกปิงปองจะกระเด้งออกจากไม้ไปโดยใช้ประสิทธิภาพของเนื้อยางและเนื้อไม้อย่างมีคุณภาพเต็มที่ พอลืมตาขึ้นมองดูก็ยังพบว่า เขาตีลูกปิงปองกันไปมา ลงปลายโต๊ะใกล้เส้นหลัง และลงตำแหน่งเดิมแทบทุกลูก ส่วนตัวนักปิงปองก็ดูเหมือนขยับตัวเหวี่ยงแขนเพียงเล็กน้อย แต่สามารถส่งลูกออกไปได้แรงทีเดียว
ถ้าคุณอยากทำได้แบบที่ว่านี้ เริ่มต้นต้องฝึกเดาะลูกปิงปองกันจนกว่าลูกปิงปองจะกระเด้งขึ้นไปได้ตรงๆ ไม้ไม่ส่ายไปส่ายมา ไม่ต้องเลื่อนไม้ตามไปซ้ายบ้างขวาบ้าง ไม่ต้องขยับตัวตามลูกไปเรื่อยๆ ฝึกไปฟังเสียงไปด้วยว่าได้ยินเสียงลูกกระทบไม้หรือว่าได้ยินแต่เสียงไม้กระทบลูก รู้สึกถึงแรงของลูกที่ตกลงมาบนหน้าไม้แล้วหรือยัง ไม่ใช่ว่ารู้แค่ว่าออกแรงเดาะลูกขึ้นไป
พอฝึกเดาะลูกคล่องแล้ว ค่อยๆเพิ่มความสูงของลูกขึ้นไปเรื่อยๆ จากนั้นลองเดาะลูกไปมากับเพื่อน เริ่มจากยืนใกล้กันแล้วห่างออกไปเรื่อยๆ พอฝึกเสร็จให้ดูรอยฝุ่นบนหน้ายางว่าอยู่ตรงกลางหน้าไม้หรือไม่
พอลงสนามฝึกตีโต้กันไปมา อย่าเพิ่งรีบร้อนเล่นลูกหมุนหรือตีเร็วหรือแรงใส่กัน ควรมุ่งฝึกท่าทางการขยับตัวและแขนให้ได้จังหวะที่ดีก่อน มุ่งส่งลูกให้แม่นยำทุกลูก ซึ่งในจังหวะที่ไม้กระทบลูกนั้น แม้วงสวิงจะเป็นวงโค้งก็ตาม ถ้ามองภาพจากด้านบนลงมา หน้าไม้ต้องตั้งฉากกับทิศทางที่จะส่งลูกออกไป และในจังหวะที่ลูกอยู่บนไม้ให้เคลื่อนไม้เป็นเส้นตรงระยะทางสั้นๆตามไปด้วย
ความแม่นยำยังขึ้นกับอีกหลายอย่าง การตั้งท่ามั่นคงหรือไม่ หน้าไม้นิ่งในจังหวะที่ไม้กระทบลูกหรือไม่ วงเหวี่ยงยิ่งลดรัศมีลงจะยิ่งช่วยทำให้แม่นยำมากขึ้น และสำคัญที่สุดต้องมีความตั้งใจที่จะตีไปยังเป้าหมายที่ต้องการ
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก
https://www.tabletennistip.com/pinpong-players/training/221-precision-vs-accuracy