“ทำเพื่อชาติ” คำนี้หลายคนต้องนึกถึงทหาร แต่ถ้านำไปค้นหาจากอากู๋ (google) กลับพบว่าเป็นคำที่ใช้ในหมู่นักการเมืองกับนักกีฬาเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักกีฬาทีมชาติเวลาถูกสัมภาษณ์ออกข่าวทางทีวีก็จะเห็นประโยคที่พูดให้คนไทยได้ยินกันเสมอว่า “จะแข่งขันให้ดีที่สุดเพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” นักปิงปองบางคนถึงกับถือว่าการเล่นปิงปองเป็นการทำหน้าที่เหมือนเป็นงานอย่างหนึ่งทีเดียว
อย่าว่าแต่นักกีฬาเลย ใครก็ตามที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศ มักมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ ได้ค่าเบี้ยเลี้ยง ได้ออกข่าว ถือเป็นโอกาสที่น้อยคนนักจะได้รับ เด็กที่ได้เที่ยวด้วยแถมได้ค่าขนมด้วยก็พากันติดใจ ไม่อยากจะสูญเสียโอกาสดีแบบนี้จึงพยายามที่จะเป็นตัวแทนของประเทศต่อไปให้นานที่สุด โดยลืมนึกไปว่าเมื่อถึงเวลาก็ต้องอำลาการทำเพื่อชาติแล้วนะ
รุ่นพี่อดีตนักปิงปองทีมชาติหลายคนเล่าให้ฟังว่า เขาเองพอถึงเวลาต้องทำงานก็ต้องทำงาน ต้องหยุดเล่นปิงปองไปเลย จึงทำให้สามารถมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเช่นทุกวันนี้ ส่วนคนที่เล่นด้วยทำงานไปด้วยมักไม่ประสบความสำเร็จในการทำงานมากนัก เว้นแต่เขามีกิจการของครอบครัวของเขาเองอยู่แล้วก็ไม่ว่ากัน
ในการเข้าทำงานนั้น หัวหน้างานเขาอาจพูดทำนองว่า “ตามสบายนะ เชิญเล่นปิงปองต่อไปได้เลย จะได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ” แต่ไม่มีหัวหน้างานคนไหนหรอกที่จะเห็นว่าการเล่นปิงปองสำคัญกว่างานที่ต้องรับผิดชอบอยู่ หัวหน้างานจะแอบดูว่า ลูกน้องของตนคนนี้ เขาคิดเองเป็นหรือไม่ เขาต้องรู้ตัวเองว่า เมื่อทำงานก็ต้องทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ ถ้าคิดไม่เป็นเอาแต่เล่นปิงปองต่อไป ลางานไปแข่งบ้าง ออกก่อนเวลาไปฝึกซ้อมบ้าง ลูกน้องแบบนี้มีหัวหน้าที่ไหนบ้างจะอยากได้
ถ้ายังอยากจับปลาสองมือ เล่นไปด้วย ทำงานไปด้วย ในที่สุดก็จะแพ้วัยสังขารของตัวเอง พออายุมากขึ้นเล่นปิงปองไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน งานก็ไม่ก้าวหน้าเหมือนกับคนรุ่นเดียวกันเสียอีก