ตามสถิติพบว่าแต้มหนึ่งๆของปิงปองตีกันไปมาไม่ถึง 5 ครั้ง ผู้ที่เสริฟได้ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งเพราะสามารถควบคุมเกมให้จบเร็วที่สุดด้วยการเสริฟหลอกให้คู่ต่อสู้รับแล้วติดเน็ตหรือกระเด้งออกไปไม่ลงโต๊ะ หากรับลูกที่เสริฟไปกลับมาได้ ฝ่ายเสริฟก็ต้องหาทางบุกกลับไปทำคะแนนให้ได้ ซึ่งเรียกว่า การบุกไม้ 3 (Third ball attack)
แต่กว่าจะบุกไม้ 3 เป็น ผู้เสริฟต้องเสริฟให้ได้ตามที่ต้องการก่อน ต้องฝึกใช้การทิ้งน้ำหนักตัวช่วยในการสะบัดข้อมือเหวี่ยงไม้เสริฟให้ลูกหมุนได้เร็วที่สุด อีกทั้งต้องหัดเสริฟหลอกด้วยการใช้ท่าทางที่คู่ต้อสู้อ่านไม่ออกหรือหลงกลอ่านลูกหมุนผิด ซึ่งการทิ้งน้ำหนักตัวและการออกท่าทางหลอกย่อมทำให้ผู้เสริฟต้องหาทางปรับสมดุลเพื่อพร้อมที่จะเตรียมบุกไม้ 3
คู่ฝึกซ้อมซึ่งเป็นฝ่ายรับเสริฟต้องทำหน้าที่รับลูกเสริฟส่งกลับไปในทิศทางที่ตกลงกันไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าฝ่ายรับก็จะพยายามบุกกลับไปให้ได้หรือตีกลับไปทิศทางใดก็ได้ตามใจ การฝึกนี้มุ่งให้ผู้เสริฟรู้จักปรับสมดุล พอเสริฟแล้วต้องกลับมาในท่าเตรียมพร้อม และสามารถบุกไม้ 3 ได้ทันที