ก่อนที่จะสอนใครหรือเรียนกับใคร ต้องเริ่มจากมีศรัทธากันก่อน พอศรัทธาแล้วย่อมเกิดความเชื่อมั่นในตัวผู้สอน ถ้าอยู่ดีๆเพิ่งรู้จักกันแล้วผลีผลามเข้าไปสอนหรือแนะนำว่าวิธีตีปิงปองที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ย่อมยากจะสร้างความเชื่อถือ ดีไม่ดีจะถูกด่ากลับมาว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง หรือถูกคิดในแง่ลบว่าเป็นคนขี้โม้ ชอบสอนโดยไม่ดูตามม้าตาเรือ อยากจะอวดความรู้จะได้จ้างเขาให้เป็นโค้ชใช่ไหมล่ะ หรือถ้าสอนวิธีที่ต่างไปจากที่เขาเชื่อ จะถูกด่ากลับก็เป็นได้
คนเรามักเกิดความศรัทธาในนักปิงปองที่มีชื่อเสียง เป็นทีมชาติ หรือเป็นแชมป์ที่เป็นที่รู้จัก แต่ถ้าเป็นใครจากมาไหนก็ไม่รู้ย่อมยากที่จะสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้น แต่ใช่ว่าคนที่เป็นแชมป์จะสอนเป็นกันทุกคน หลายคนเล่นปิงปองเก่งแต่จัดลำดับการสอนจากง่ายไปยากไม่เป็น
โค้ชที่อยากอวดมักชอบพูดสอนออกมาดังๆในที่สาธารณะทำให้ได้ยินกันหมดทั้งห้องปิงปอง ต่างจากโค้ชที่ดีซึ่งจะพูดสอนด้วยเสียงเบาๆที่ได้ยินกันกับนักปิงปองที่เขาสอนเท่านั้น ยิ่งถ้าเข้าไปสอนคนที่ไม่รู้จักแล้วกลับกลายเป็นว่าเขาก็เป็นโค้ชเหมือนกัน และเขาก็กำลังเล่นอยู่กับนักปิงปองที่เรียนกับเขาอยู่ด้วย ทำแบบนี้เรียกว่า หักหน้ากันชัดๆ แม้จะทำด้วยความหวังดีก็ตาม
คุณพ่อคุณแม่ที่ฝากลูกเรียนปิงปองกับใคร ต้องเลือกโค้ชปิงปองให้ดีเพราะนิสัยลูกจะเลียนแบบตามโค้ชไปด้วย ตัวโค้ชต้องเป็นคนดีและมีระเบียบวินัยที่เป็นตัวอย่างที่ดี
โค้ชปิงปองที่ดีควรมีนิสัยถ่อมตัว ไม่ควรแนะนำตัวเองกับใครโดยเรียกชื่อตัวเองว่ามีคำว่าครูหรือโค้ชนำหน้า ถ้าไม่มีใครถามก็ไม่ควรโอ้อวดว่าแชมป์คนนั้นหรือนักปิงปองชื่อดังคนนี้เป็นศิษย์ของตน ถ้าเป็นโค้ชดีจริง ลูกศิษย์จะเป็นคนประกาศให้เอง
บางคนโชคดีได้เป็นครูเป็นโค้ชปิงปองของชมรมปิงปองในบริษัทที่มีชื่อเสียงหรือหน่วยงานราชการแล้วก็ลืมตัว มาสายบ้าง ไม่มาบ้าง ตั้งใจสอนต่อเมื่อเป็นการว่าจ้างสอนที่ได้เงินเท่านั้น พอมาถึงก็ทำตัวใหญ่คับห้อง เลิกกล่าวคำขอบคุณ มือไม้แข็งไม่รู้จักไหว้ทักทายคนอื่นก่อน มองข้ามทุกคนไปหมด มีพฤติกรรมทำตัวไม่ต่างกับมาเฟียประจำบ่อน คนแบบนี้เป็นได้แค่โค้ชปิงปองที่มีแต่ถูกประนามลับหลังและรอให้ถูกไล่ออก
นอกจากปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการฝึกฝนแล้ว ยังต้องอาศัยความสมบูรณ์ของร่างกายประกอบด้วย ถ้าอยากจะเก่งแต่แขนขามีปัญหากล้ามเนื้อร่างกายไม่อำนวยย่อมเป็นไปได้ยาก ดังนั้นก่อนจะสอนใครควรดูให้ดีก่อนว่านักปิงปองมีร่างกายส่วนใดติดขัดหรือไม่ จะหน้าแตกเอาง่ายๆถ้าบังคับให้เหวี่ยงแขนอย่างนั้นถ่ายน้ำหนักอย่างนี้ทั้งๆที่ร่างกายของนักปิงปองทำไม่ได้
นักปิงปองบางคนฝึกตีท่าเดิมๆจนชิน ย่อมยากจะแนะนำให้เปลี่ยนวิธีตีต่างไปจากเดิม โค้ชที่ฉลาดควรอธิบายให้เข้าใจด้วยเหตุผลว่าวิธีตีแบบใหม่นั้นดีกว่าอย่างไร ถ้ายังคงตีปิงปองต่อไปโดยใช้ท่าเดิมๆจะมีผลเสียหายต่อร่างกายกล้ามเนื้อในระยะยาวอย่างไรบ้าง เพราะโดยทั่วไปท่าตีปิงปองที่ดีย่อมไม่ทำให้ส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อหรือร่างกายอยู่แล้ว เช่น ถ้าติดนิสัยห้อยข้อมือลงไว้ตลอด ในระยะยาวจะทำให้ข้อมือคดหรือเส้นเอ็นที่แขนยึดจนดึงรั้งแขนทั้งแขนให้เหยียดตรงไม่ได้ หรือบางคนที่ติดนิสัยไม่วางเท้าขวาไว้ข้างหลังเวลาตีโฟร์แฮนด์แต่ชอบว่าเท้าไว้เสมอกัน ให้ลองตบแรงๆดูว่าทำได้แรงหรือไม่หรือเสียสมดุลง่ายหรือไม่ การวางเท้าแบบไหนที่ช่วยให้ฟุตเวิร์คคล่องตัวกว่ากัน
กว่าจะเริ่มสอนใครควรใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมของนักปิงปองให้ดีก่อน โดยเฉพาะนิสัยใจคอว่าเป็นคนดีหรือไม่ ลองเล่นกันไปสักพักแล้วถ้าเขาเอ่ยปากถามขึ้นมาก่อนแล้วจึงช่วยให้คำแนะนำจะเหมาะกว่า
สำคัญที่สุด คนที่ควรสอนต้องเป็นคนที่อยากเรียนด้วย โค้ชไม่ต้องเป็นฝ่ายเข้าหา แต่คนที่อยากเรียนปิงปองต้องเข้าไปขอความรู้เอง นักปิงปองที่อยากเก่งต้องแสดงความตั้งใจให้เห็น มีความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนท่าตีของตน ไม่อวดเก่ง และไม่ลืมตัว ไม่ลืมตัวผยองตนว่าเล่นปิงปองเก่งกว่าใครๆอยู่แล้ว
ถ้าสอนไปแล้วดื้อ บอกกี่ครั้งก็แล้วยังไม่ยอมทำตาม ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรสอนต่อไปอีก