"น่าเสียดายที่ต้องเลิกเล่นปิงปองซึ่งเป็นกีฬาที่รักมากที่สุดเสียแล้ว"

บทเรียนที่เจ็บแสบที่สุดนี้เกิดจากการพยายามฝึกซ้อมปิงปองเองโดยปราศจากคำแนะนำที่ถูกต้อง ไม่ได้เลือกวิธีการฝึกซ้อมที่เหมาะกับสภาพร่างกายของตัวเอง เห็นคนอื่นเขาทำได้เลยพยายามทำตาม พยายามเลียนแบบนักกีฬาจีนญี่ปุ่นเกาหลีกัน โดยหารู้ไม่ว่ากว่าที่เขาจะทำท่านั้นๆได้นั้น ต้องผ่านการฝึกฝนทีละขั้นอย่างไรบ้าง

ผมเห็นเด็กสมัยนี้ฝึกซ้อมปิงปองแล้ว ห่วงเหลือเกินว่า อีกหน่อยนอกจากเข่าแล้วจะพากันเจ็บโน่นเจ็บนี้กันเต็มบ้านเต็มเมืองกันไปหมด จะกลายเป็นคนที่แก่เกินวัยเพราะฝืนใช้ร่างกายหักโหมมากเกินไปสมัยเด็กๆ

คุณเป็นคนหนึ่งที่เจอบทเรียนแบบนี้หรือเปล่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับบทเรียนนี้ เพราะเล่นปิงปองนี่แหละครับ เล่นจนเจ็บเข่า พออายุสัก 25 ปี เวลาทิ้งน้ำหนักจะเจ็บแปล้บข้างในหัวเข่า เจ็บทั้งสองข้างเลยจนต้องไปผ่าเข่า ผ่ากับเพื่อนของคุณแม่ที่เป็นหมอเหมือนกัน

คุณหมอเอ็กซเรย์เข้าไปดูแล้วไม่เจออะไรผิดปกติจึงบอกว่าขอผ่าเข้าไปดูหน่อย บอกว่าไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวฉีดยาชาให้เวลาผ่าจะไม่เจ็บเลย

คุณหมอค่อยๆกรีดเนื้อที่หัวเข่าเข้าไปทีละนิด ส่วนผมก็นอนทำตาปริบๆแอบมองหน้าคุณหมอผ่านช่องผ้าที่ปิดหน้าไปเรื่อยๆ เวลาที่ถูกมีดกรีดไม่เจ็บแต่จะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาขีดเส้นลงบนหัวเข่า ขีดเข้าไป ขีดเข้าไปเรื่อยๆ

เวลาผ่านไปสักพักยังไม่หยุดขีดเส้นบนหัวเข่าซ้ายของผมเสียที ผมถามคุณหมอว่าทำไมยังไม่หยุดผ่าอีก คุณหมอตอบว่า ยังไม่เจอปัญหาที่ทำให้เจ็บ จะต้องกรีดลึกเข้าไปอีก ผมจินตนาการคิดเห็นภาพกระดูกหมูเลยว่า ตอนนี้น่าจะผ่าเข้าไปถึงกระดูกแล้วมั้งเนี่ย นี่น่าจะเป็นชั่วโมงแล้วนะ

ยังรู้สึกว่าถูกกรีดต่อไปเรื่อยๆ นี่คุณหมอคงผ่าลึกเข้าไปอีก เข้าไปอีก ผมคิดของผมเอง ทำไมยังไม่เสร็จเสียทีนะ

ต่อมาสักพักก็หยุดกรีด หันมาบอกว่า หมอผ่าเข้าไปเกือบถึงกระดูกแล้วไม่เจออะไรผิดปกติเลยนะ หมอเปลี่ยนเส้นทางน้ำเหลืองให้ไปคั่งที่อื่นแทนให้แล้วจะได้ไม่มาอักเสบที่ตรงนี้อีก ว่าแล้วคุณหมอก็จัดเครื่องมือเริ่มเย็บปิดแผล

 

KneeOperation

 

ผมกลับมาบ้านต้องนั่งเฉยๆห้ามขยับอยู่หลายวัน แต่เนื่องจากลางานไว้แค่อาทิตย์เดียว ต้องขับรถเองไปทำงานแล้วใช้ไม้ค้ำยันเพื่อเดินไปเดินมา

พอจะนั่งเก้าอี้เท่านั้นเอง หัวเข่าที่พันแผลไว้ดันไปชนกับขอบโต๊ะจนเลือดซึมออกมาอีก เปิดแผลดูยังใจชื้นขึ้นว่า แผลที่เย็บไว้ไม่ฉีกมากนัก แค่ปรินิดๆตรงขอบปลายแผลเท่านั้น คิดในใจว่าน่าจะลาหยุดจนกว่าแผลหายสนิทเลยดีกว่า ไม่น่ารีบร้อนมาทำงานเลย

หลังจากจบเรื่องแผลที่ผ่าไปแล้ว หัวเข่าของผมก็ยังเจ็บอยู่อีก ทำให้กลัวไม่กล้าจะขยับหัวเข่า เวลาไปไหนๆต้องขอให้แฟนขับรถแทน ส่วนปิงปองนั้นผมหยุดเล่นไปก่อนตั้งแต่เริ่มเจ็บเข่าแล้ว พอผ่าแล้วกลับกลายเป็นว่ายังเจ็บอยู่ดี อดเล่นปิงปองอีกนั่นแหละ ผมเลยตัดใจไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรๆกับปิงปองอีก เห็นแล้วอยากเล่นอีกครับ ผมเลยยกทุกอย่างที่เกี่ยวกับปิงปองให้กับคนอื่นหมด ไม่ว่าจะเป็นไม้ปิงปอง เครื่องยิงลูกปิงปอง โต๊ะปิงปอง หนังสือปิงปอง (ที่เสียดายที่สุดก็หนังสือนี่แหละครับ เป็นหนังสือปิงปองมาจากญี่ปุ่นที่ออกมาทุก 3 เดือน แสดงท่าทางการเล่นปิงปองให้เห็นทีละจังหวะเลยว่าเหวี่ยงอะไรกันยังไง โดยเฉพาะท่าเสริฟของจีนแบบ 2 จังหวะที่คนไทยสมัยนั้นไม่เคยใช้กันมาก่อน)

เนื่องจากไม่ยอมขยับเข่าบ้างเลยจึงทำให้เกิดพังผืดมายึดบริเวณที่ผ่า ทำให้ผมไม่สามารถงอหรือพับขาได้อีก นั่งคุกเข่าก็ไม่ได้ นั่งขัดสมาธิก็ต้องยกชันเข่าขึ้นไปสูงๆ ขามันไม่ยอมแบะลงมา เวลาจะนั่งหรือย่อขาลง จะรู้สึกขาไม่มีแรง กลายเป็นต้องนั่งพับเพียบแบบงอขาได้นิดๆเท่านั้น

ทุกวันนี้ผมกลับมาเล่นปิงปองได้อีกจากการให้หมอนวดแผนไทยชื่อ หมอปุ๊ ที่ตึกฟอร์จูน ถนนรัชดา ช่วยไล่เส้นให้ใหม่ตั้งแต่เอวไปจนถึงปลายเท้า กว่าจะขยับได้ทุกส่วนใช้เวลาแก้กันเกือบ 2 ปี ต้องทนเจ็บตอนที่ไล่เส้นใหม่มากๆครับ เจ็บจนน้ำตาไหลทุกครั้ง


 

kneeFake2

นอกจากนี้ขอแจ้งข่าวสำหรับคนที่ไปผ่าแล้วใส่ข้อเทียมเข้าไป มีสารคดีทางช่อง NetFlix เตือนว่า แม้แต่ข้อที่เป็นโลหะแคดเมียม(!) อย่างดี เมื่อข้อเทียมเสียดสีกันไปเรื่อยๆ จะบดกันจนกลายเป็นผงเล็กๆแล้วร่างกายจะดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ผู้ใช้ข้อเทียมหลายคนมีอาการติงต๊อง จำอะไรไม่ได้ หรืออยู่ดีๆก็ทำอะไรที่ไม่รู้ตัว มีอาการเหมือนคนเป็นโรคประสาท พอตรวจเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ ตรวจละเอียดๆจึงพบว่ามีแคดเมียมผสมอยู่ในเลือดเป็นจำนวนมาก พอผ่าเข้าไปดูจะพบคราบสีดำเหมือนน้ำมันเครื่องใช้แล้วล้อมข้อเทียมเต็มไปหมด

สาเหตุเกิดจากบริษัทที่ผลิตข้อเทียมไม่ได้ตรวจสอบผลเสียจากการใช้งานในระยะยาว ฝ่ายรัฐบาลของอเมริกาก็ไม่ได้เข้มงวดบริษัทเหล่านี้เสียอีก ใครที่ใช้อะไรที่เป็นของเทียมใส่ไว้ในร่างกายกลายเป็นเหมือนหนูทดลองยา ต้องระวังกันให้มากครับ

ทางที่ดีที่สุด พยายามรักษาข้อต่างๆให้ใช้งานได้ตามธรรมชาติไปนานๆดีกว่าครับ

Copyright of www.TableTennisTip.com - www.facebook.com/TableTennisTip/

Go to top