ความแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตีปิงปอง ซึ่งต้องตีลูกปิงปองให้แม่นยำทั้ง 3 มิติ กล่าวคือ
- ระยะทางที่ลูกกระทบโต๊ะ
- ทิศทางที่ส่งลูกออกไป
- ระดับความสูงจากเน็ต
แม้โต๊ะปิงปองมีขนาด 5 x 9 ฟุตก็ตาม แต่พื้นที่ซึ่งมีประโยชน์ใช้ทำคะแนนมีเพียงไม่กี่จุดเท่านั้นและย้ายตำแหน่งไปตามแต่ว่าคู่ต่อสู้ยืนตีในตำแหน่งใดด้วย โดยจะเห็นได้ว่านักปิงปองที่ชำนาญจะฝึกตีลูกลงบริเวณปลายโต๊ะหรือลงบนเส้นขาวได้อย่างแม่นยำ ซึ่งระยะทางที่ลูกกระทบโต๊ะเป็นมิติที่นักปิงปองที่เอาแต่ตีแรงและเร็วทำกันพลาดมากที่สุด เพราะมักฝึกตีลูกลงบริเวณกลางโต๊ะ จึงเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้มีมุมที่จะตีโยกกลับมาได้กว้างและสวนกลับมาได้เร็ว
ส่วนนักปิงปองที่เคลื่อนตัวไม่เก่ง ก้าวเท้าไม่เป็น พอถูกโยก หรือต้องการส่งลูกหลอก มักใช้การดัดข้อมือเพื่อปรับมุมหน้าไม้ทำให้ยากต่อการควบคุมทิศทางให้แม่นยำหรือตีลูกผิดพลาดได้ง่ายขึ้น ส่วนนักปิงปองที่ชำนาญสามารถใช้วงสวิงเดิมตีลูกได้แม่นยำไม่ว่าจะตีไปทางไหน โดยใช้ฟุตเวิร์คขยับลำตัวให้พร้อมที่จะส่งลูกกลับไปในทิศทางที่ต้องการ หรือปรับจุดที่ไม้กระทบลูกที่สัมพันธ์กับลำตัวตามแต่ว่าต้องการส่งลูกไปทางใด เช่น เลือกจุดกระทบด้านหน้าซึ่งหน้าไม้จะปิดเพื่อตีโยกทะแยงมุม แต่เมื่อต้องการตีลูกขนานกับเส้นให้บิดตัวไปข้างหลังให้มากกว่าเดิมแล้วเลือกจุดกระทบด้านข้างลำตัวซึ่งหน้าไม้จะเปิด ซึ่งจะได้ความแม่นยำกว่าการดัดข้อมือเพื่อปรับมุมหน้าไม้
นอกจากการเลือกจังหวะกระทบลูกปิงปองซึ่งมีมุมหน้าไม้แปรเปลี่ยนไปในแต่ละระยะของวงสวิงแล้ว ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมทิศทางของลูกปิงปองยังขึ้นกับทิศทางของแรงจากไม้ที่ตีไปยังลูกปิงปองด้วย โดยในจังหวะที่ลูกกระทบไม้ให้ลากไม้เป็นเส้นตรง(ระยะสั้นๆ)ส่งแรงไปตามทิศทางที่ต้องการตีลูกออกไป
ในมิติระดับความสูงจากเน็ต เป็นที่ทราบกันดีว่าต้องพยายามตีลูกให้เลียดเน็ตให้มากที่สุด มักแนะนำกันว่าให้ปรับหน้าไม้ให้เหมาะกับการหมุนของลูก ถ้าลูกหมุนแบบ topspin มาก็รับโดยปิดหน้าไม้ให้มากหน่อย ถ้าลูกหมุนแบบ backspin มาให้เปิดหน้าไม้เพื่อรับลูก ซึ่งถ้าเลือกตีลูกที่กระเด้งขึ้นมาให้ถูกจังหวะจะควบคุมลูกที่ตีกลับไปได้ง่ายขึ้น
- ถ้าเลือกตีลูกปิงปองในจังหวะกำลังกระเด้งขึ้น ซึ่งมีทิศทางของลูกที่กระทบหน้าไม้แล้วจะเป็นมุมเงยข้ามเน็ตอยู่แล้วในตัว การรับลูกที่ backspin มาก็ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าไม้มากนัก แต่ถ้ารับลูก topspin ในจังหวะนี้ต้องปิดหน้าไม้มากเป็นพิเศษและต้องทอนแรงของลูกที่ตีมาแรงๆให้กระเด้งออกไปค่อยลง แล้วตีลูกกลับไปโดยเหวี่ยงไม้จากสูงไปต่ำเพื่อกดลูกลง
- ถ้าเลือกตีลูกปิงปองในจังหวะกำลังลอยลง ซึ่งมีทิศทางของลูกที่กระทบหน้าไม้แล้วจะเป็นมุมตกอยู่แล้วในตัว การรับลูกที่ backspin มาก็ต้องเปิดหน้าไม้มากขึ้น แต่ถ้ารับลูก topspin ในจังหวะนี้ไม่จำเป็นต้องปิดหน้าไม้มากนัก แล้วตีลูกกลับไปโดยเหวี่ยงไม้จากต่ำไปสูงเพื่อส่งลูกขึ้น