ถ้าอยากจะเล่นปิงปองให้สนุก ต้องสามารถเล่นได้ทั้งรุกและรับ ใครก็ตามที่ฝึกแต่จะบุก บุก บุก พอเจอมือบุกที่แข็งกว่า ต้องสามารถตั้งรับเพื่อพยุงตัวให้พ้นอันตรายหรือแม้แต่ทำให้ท่าตั้งรับกลายเป็นอาวุธ ไม่ใช่แค่เหนียวแต่ต้องแสบอีกด้วย

แทนที่จะรับแบบบล้อค (Block) ตรงๆซึ่งปล่อยให้ลูกกระเด้งกลับไปเองโดยไม่ต้องออกแรง ต้องหาทางทำให้ทุกลูกที่เราส่งกลับไปมีความหมาย ไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเปรียบ ไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้บุกได้ง่ายๆ บล้อคบางลูกอาจเสริมแรงกระแทกกลับไปทำให้คู่ต่อสู้หลงทาง บางลูกอาจซับแรงลูกที่วิ่งมาจนทำให้ลูกที่กระเด้งกลับไปหมดแรงทำให้คู่ต่อสู้ต้องออกแรงตีกลับมา หรือวิธีบล้อคที่เรียกว่า Half Volley ซึ่งจะรับลูกเร็วมากในจังหวะที่ลูกเพิ่งจะเริ่มกระเด้งขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ (วิธีนี้ครูจันทร์ ชูสัตยานนท์สอนให้กับลูกศิษย์ ซึ่งไม่เคยเห็นในตำราเล่มใด)

 

BlockITTF

 https://youtu.be/DNg6i4wQIa0

BlockJO

 https://youtu.be/fgXcUeJ9_gA

 

นอกจากนี้ยังมีวิธีบล้อคให้ลูกหมุนข้างกลับไป (Sidespin Block) หรือแม้แต่ทำให้หมุนแบบตัดกลับไป (Chop Block) ซึ่งพอลูกกระเด้งลงโต๊ะแล้วจะเลี้ยวหรือหยุดอยู่กับที่ เป็นการทำลายจังหวะการตีของคู่ต่อสู้

 

SidespinBlock KentaOK

 https://youtu.be/8zWyHqwufDw

SidespinBlock Kenta

https://youtu.be/CJOgpmt8ulc

 BlockMaLong

https://youtu.be/oKgzK49IHKE

SidespinBlockMaLong

https://youtu.be/QQ2oLoTJjqw

หลักสำคัญที่จะทำให้การหมุนของลูกทำให้ให้กระเด้งเลี้ยวออกไปจากแนวเดิมก็คือ ต้องไม่ส่งลูกออกไปแรง เพื่อปล่อยให้การหมุนทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่

ปิงปองยุคนี้เล่นกันเร็วและแรงขึ้นมาก เร็วขึ้นจนต้องปรับขนาดลูกปิงปองให้ใหญ่ขึ้นเพื่อหวังว่าจะทำให้เล่นกันช้าลง แต่ในที่สุดก็ยังเร็วอยู่ดีและนับวันจะยิ่งเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ผู้ชนะคือคนที่เล่นได้เร็วกว่าจนคู่แข่งขยับตัวไม่ทัน นักปิงปองที่ฉลาดต้องรู้จักคิดจัดวิธีการขยับตัวของตนเองว่าลูกใกล้ลูกไกลจะขยับตัวแค่ไหนจึงจะพอดี จะใช้แรงจากการเหวี่ยงแขนหรือจะใช้แรงจากการบิดเอวมากน้อยกว่ากัน ถ้าเอาแต่ฝึกออกแรงเป็นแค่ท่าเดียวทุกลูก แบบนี้ไปได้ไม่ถึงไหนหรอก แค่ขยับตัวมากไปหน่อย ก็ตีไม่ทันแล้ว

แม้ว่าแรงที่ได้จากการถ่ายน้ำหนักตัวจะสร้างแรงโมเมนตัมได้มากกว่าแรงจากการเหวี่ยงแขนหลายเท่าก็ตาม แต่การขยับตัวขยับเท้าเพื่อปรับมุมในการสร้างแรงจากการถ่ายน้ำหนักตัวกว่าจะถ่ายเทไปถึงมือต้องอาศัยเวลา ซึ่งเวลาที่ว่านี้อาจไม่ทันกับการดวลลูกบนโต๊ะระยะสั้นถึงปานกลางแล้วก็ได้

การฝึกปิงปองเบื้องต้น ต้องเรียนรู้การถ่ายน้ำหนักตัวให้เกิดขึ้นในจังหวะก่อนการเหวี่ยงแขน หากจะตีได้แม่นยำต้องขยับตัวเข้าหาลูกแล้วตีโดนลูกในตำแหน่งด้านหน้าของลำตัวในจุดเดิมเสมอ เช่น ท่าตีโฟร์แฮนด์ควรตีโดนลูกในตำแหน่งด้านหน้าของสะโพกขวาห่างจากลำตัวประมาณ 1 ศอก ซึ่งแน่นอนว่าการฝึกแบบนี้ต้องอาศัยการขยับตัว เป็นการสอนให้นักปิงปองหน้าใหม่รู้จักท่าตีปิงปองที่ดีซึ่งได้นำมาแนะนำไว้ในเว็บ TableTennisTip.com นี้อยู่แล้ว ซึ่งยังมีเทคนิคขั้นที่สูงขึ้นอยู่อีก ใครที่ยังไม่ผ่านท่าเบื้องต้นก็ขออย่ารีบร้อนฝึกข้ามขั้น

 

NewDrive

 

สำหรับการตีโต้ลูกในระยะใกล้โต๊ะถึงระยะปานกลาง เพื่อมุ่งให้สามารถเล่นเกมที่เร็วได้มากขึ้น ให้ขยับตัวน้อยลง แล้วเปลี่ยนไปใช้แรงจากหัวไหล่เหวี่ยงแขนให้มากขึ้น จากภาพนี้ให้ใช้เหวี่ยงแขนท่อนบนไปข้างหลังลำตัวโดยใช้แรงจากหัวไหล่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องฝึกบริหารให้มีกล้ามเนื้อหัวไหล่และกล้ามเนื้อด้านหน้าอก

 

HarimotoTraininghttps://youtu.be/qDi0fpgKj5o

ในจังหวะอัดแรง ให้ควบคุมมุมตรงข้อศอกให้แขนท่อนบนกับท่อนล่างงอคงที่ไว้ตลอด อย่าเหยียดแขนท่อนล่างออกไป เหวี่ยงแขนท่อนบนอัดแรงไปข้างหลัง พอปล่อยแรงจากหัวไหล่ออกไปให้ใช้วิธีปรับมุมหน้าไม้เพื่อควบคุมทิศทางว่าต้องการส่งลูกตรงหรือลูกทะแยงกลับไป (ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการฝึกของนักปิงปองหน้าใหม่)

เคยไหม พอลงแข่งครั้งแรกก็ตกรอบทันที นักปิงปองหลายต่อหลายคนต้องเคยมีประสบการณ์แบบนี้กันมาก่อน หลายครั้งหลายคราที่ต้องแข่งกับนักปิงปองที่เก่งกว่าจนเทียบชั้นกันไม่ได้ แน่ล่ะ เจอแบบนี้ก็ต้องตกรอบกันไปอีกแล้ว ตกแล้วตกอีก จนต้องบอกว่าแล้วแต่ดวงว่าจะจับฉลากเจอกับใคร ถ้ามีสปอนเซอร์ออกเงินสมัครแข่งให้ก็แล้วไป แต่ถ้าต้องลงทุนเองก็ต้องคิดให้ดีว่า คุ้มไหม

ในประเทศญี่ปุ่นมีระบบการจัดแข่งขันปิงปองไว้หลายแบบมาก ไม่ใช่ว่าจะได้ลงแข่งเจอกับ Jun หรือ Harimoto กันง่ายๆ กว่าจะผ่านเข้ามาแข่งในระดับประเทศได้ต้องผ่านด่านหลายชั้น ในญี่ปุ่นมีการแข่งขันในระดับจังหวัด ระดับโรงเรียน ระดับมหาวิทยาลัย ระดับคนทำงาน ระดับสโมสร หรือตามอายุ ซึ่งสร้างแชมป์ปิงปองเยอะแยะไปหมด แชมป์ของญี่ปุ่นหลายคนเราไม่เคยเห็นหน้าเห็นตากันมาก่อน แชมป์ปิงปองจากระดับสโมสรธรรมดาๆของญี่ปุ่นสามารถเอาชนะนักปิงปองระดับประเทศของหลายชาติได้ทีเดียว

การแข่งขันปิงปองระดับโรงเรียน ยังแบ่งกลุ่มการแข่งขันเป็นเด็กประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย ระดับมหาวิทยาลัยแบ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาเฉพาะตามวิชาชีพ และจัดแข่งในระดับเมือง ระดับจังหวัด จนมาถึงระดับประเทศอีกชั้นด้วย

 

JPNChild

JPNFemale

JPNMalehttp://www.jtta.or.jp/tournament/tabid/121/Default.aspx

 

ทำไมน่ะหรือ เพื่อมุ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักปิงปองมือใหม่ไงล่ะครับ เปิดโอกาสให้ก้าวขึ้นมาทีละขั้น เก่งขึ้นแล้วจึงเลื่อนไปแข่งกับกลุ่มที่มีฝีมือเก่งพอๆกัน ได้หัวกะทิแล้วจึงคั้นซ้ำอีกให้ได้หัวกะทิของหัวกะทิขึ้นไปอีก

ขอแนะนำหนังสือ Ping Pong for Fighters เขียนโดย Leibovitz, Tahl. แชมป์เหรียญทองพาราลิมปิก

จงอย่ายึดติดว่า หนังสือปิงปองที่ดีจะต้องเขียนโดยนักปิงปองที่เป็นแชมป์โลกหรือเล่นปิงปองเก่งๆเสมอไป  น้อยคนนักที่จะเขียนหนังสือได้ใจความ พูดสอนได้เรื่อง ถ่ายทอดความรู้เป็น

ท่าตีปิงปองที่สวยงาม ไม่ได้เป็นอาวุธที่ใช้เอาชนะได้เสมอไป ท่าตีไม่ได้สำคัญเท่าหลักการเอาชนะที่ใช้สมองคิด

 

Pingpong4Fighters

 

หนังสือเล่มนี้ให้ข้อคิดในการฝึกและในการแข่งปิงปองไว้ดีมาก นับว่าเป็นหนังสือที่เปิดเผยเคล็ดลับไว้มากมายอย่างไม่ปิดบังต่างจากหนังสือปิงปองอื่น ทำให้เราได้คิดตาม ไม่ใช่เอาแต่ให้ลอกตาม ขอยกเนื้อหาบางตอนมาให้พวกเราได้เรียนรู้กัน

ราคาเล่มละไม่กี่ร้อยบาท สนใจสั่งซื้อได้จาก Amazon ตามลิงก์นี้
https://www.amazon.com/Ping-Pong-Fighters-Tahl-Leibovitz/dp/1500575909

ข้อเตือนใจในการลงแข่งขัน   

(หน้า 142-143)

  • Keep the opponent off balance with placement and serve return.
    โยกย้ายตำแหน่งการวางลูกและการรับลูกเสริฟเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ขยับตัวจนเสียสมดุลเสมอ

  • Change service and service return to keep the opponent guessing.
    ปรับเปลี่ยนวิธีเสริฟและการรับเสริฟเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ต้องเดาเสมอ

  • Use shorter strokes when I am up at the table.
    ขยับตัวใช้วงให้สั้นลงเมื่อเล่นลูกใกล้โต๊ะ

  • After I loop three balls, if they counter-loop, I can win the point with a block.
    หลังจากเล่นลูกท้อปสปิน(Loop) 3 ลูกซึ่งคู่ต่อสู้สามารถโต้กลับมาได้ ให้ใช้บล้อคซึ่งจะทำคะแนนได้

  • Don’t try to cream the second ball.
    อย่าพยายามรับเสริฟแบบรุนแรงมากไป

  • Stay up at the table and try to play more off the bounce, but don’t play off the bounce so fast.
    เมื่อเล่นใกล้โต๊ะ พยายามเล่นลูกเร็ว ไม่ต้องรอให้ลูกกระเด้ง แต่อย่าเร็วเกินไป

  • Service is the first touch, attack is the second touch, and attack again is the third touch. With the fourth and sixth touch, I can play stronger.
    จงเล่นให้แรงขึ้นในการตีครั้งที่ 4 กับ 6 (ตีครั้งแรกคือเสริฟ ตีครั้งที่ 2-3 ให้บุก บุก)

  • I can only kill the ball when I have the chance or when I have created the chance.
    จงเล่นลูกบุกเพื่อเอาชนะ ต่อเมื่อได้โอกาส หรือเมื่อสร้างโอกาสขึ้นมาให้เอาชนะได้

  • When the ball travels fast I have to move my hand slow. Also in the rally when the speed increases I have to decrease my speed. When I smash, I should try and smash at a medium pace. My first goal is to get the ball on the table.
    ถ้าลูกแรงมา ให้ลดแรงปะทะลงโดยการเหวี่ยงแขนค่อยลง
    ในการตีโต้ ถ้าเกมเร็วขึ้น ให้ลดความเร็วของตัวเองลง แล้วเมื่อจะตบ ต้องตั้งใจตบให้ลงโต๊ะไว้ก่อน อย่าตบจนสุดแรง

  • If I can control my opponent’s power I could be in a good position during the match. We control the power of our opponents with good placement and off speed shots.
    ถ้าสามารถควบคุมกำลังของคู่ต่อสู้ได้ จะทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน จะควบคุมได้โดยรู้จักฉลาดวางตำแหน่งลูก และเล่นให้เร็วกว่า
  • Touch the ball at least two times before trying to win the point, unless I am presented with a good opportunity. The better the player, the more I will have to touch the ball before I can win the point with a strong attack.
    พยายามตีโต้อย่างน้อยให้ได้ 2 ครั้งก่อนที่จะพยายามทำแต้ม เว้นแต่จะมีโอกาสดี จะเป็นผู้เล่นที่เก่งขึ้นได้ ต่อเมื่อพยายามตีโต้ได้นานขึ้นก่อนที่จะบุกแรงๆเพื่อทำแต้ม

  • Play opponents as though I am playing a chopper. Be patient and choose your shots wisely.
    ในการแข่งขัน ทำตัวให้เหมือนกับกำลังเล่นเป็นมือรับ จงใจเย็นๆ และเล่นแต่ละลูกอย่างชาญฉลาด

 

Tahlhttps://youtu.be/BAjNlYqpISg

 

การถ่ายวิดีโอเพื่อการเรียนรู้ มุมถ่ายควรแสดงให้เห็นตำแหน่งที่ลูกลง ความเร็วของลูกและระดับความสูงของลูกที่ตีไปด้วย ต่างจากการถ่ายทอดทางทีวีที่จะเห็นแต่ด้านหลังซึ่งดูอะไรไม่ค่อยออก 

 BallHeightArrow

https://www.facebook.com/TableTennisTip/videos/545063132579176/

 

สังเกตจากวิดีโอนี้ ใครว่าต้องตีให้แรงและต้องตีเลียดเน็ต

นักปิงปองที่ขาดครูคอยแนะนำมักไม่รู้ตัวว่าตนเองยังมีข้อบกพร่องอยู่อีกมากมาย หลายๆคนคิดว่าตัวเองตีปิงปองได้ดีแล้วเพียงเพราะสามารถเอาชนะเพื่อนที่ฝึกตีปิงปองด้วยกัน แต่พอลงแข่งขันที่สนามอื่นได้เจอคู่ต่อสู้ที่มีเบสิคดีกว่าก็แพ้อย่างไม่เป็นท่า ซึ่งจากการสอบถามนักปิงปองเก่งๆที่เป็นแชมป์ว่า นักปิงปองรุ่นใหม่ขาดอะไรมากที่สุด คำตอบก็คือ ขาดการฝึกซ้อมเบสิค

การซ้อมตีโฟร์แฮนด์โต้กันไปโต้กันมาเป็นเบสิคยอดนิยมที่ชอบฝึกกัน ซึ่งมักคิดแบบผิดๆกันว่าเมื่อตีได้แรงได้เร็วและหมุนกว่าคู่ต่อสู้ก็เพียงพอแล้ว แทบทุกคนที่ฝึกตีโต้กัน(ไม่ว่าจะเป็นโฟร์แฮนด์หรือแบคแฮนด์)แทบไม่เคยสนใจว่าต้องตีลูกปิงปองให้ลงที่จุดไหนของโต๊ะและจุดนั้นต้องอยู่ตรงไหนของคู่ต่อสู้ คิดกันแค่ขอตีโต้กันได้หลายๆครั้งหรือไม่ก็ฝึกเพื่ออุ่นเครื่องแล้วมุ่งใช้เวลาไปเล่นนับแต้ม

weakSpotNew

แม้โต๊ะปิงปองมีพื้นที่กว้างพอให้ตีลูกปิงปองข้ามเน็ตลงไปได้ตามสะดวก แต่มีพื้นที่เล็กๆเท่านั้นที่เป็นตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ทำให้ไม่สามารถรับลูกที่เราตีข้ามไปได้ถนัดหรือทำให้เราสามารถควบคุมทิศทางของลูกที่ตีกลับมาได้ว่าจะย้อนกลับมาในทิศทางไหน ซึ่งนักปิงปองต้องพยายามฝึกตีลูกให้ลงในตำแหน่งเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นจึงไม่ควรเริ่มฝึกตีโต้เร็วหรือแรงเกินไปเพื่อฝึกควบคุมทิศทางและระยะสั้นยาวของลูกให้ได้ก่อน

พอสามารถตีลงจุดหนึ่งๆได้ตามต้องการแล้ว จึงค่อยๆเพิ่มความเร็ว ความแรง และการหมุนลูกมากขึ้น ฝึกตีทั้งลูกบนโต๊ะและลูกไกลโต๊ะให้ชำนาญ ไม่ว่าจะเหวี่ยงแขนแรงมากเพื่อตีลูกแรงๆก็ยังไม่เสียสมดุล จากนั้นจึงฝึกไล่ตีลูกให้ลูกลงในตำแหน่งต่างๆสลับกันไปมา

เมื่อถึงเวลาแข่งขันกับคู่ต่อสู้ที่ถนัดโฟร์แฮนด์ ก็สามารถตีลูกยาวโยกขวาของคู่ต่อสู้-โยกซ้าย-แล้วตีลูกสั้นลงมุมขวาหน้าเน็ตหรือตีอัดเข้าตรงข้อศอก

ส่วนวิธีเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ถนัดตีแบคแฮนด์ ให้ตีลูกยาวอัดเข้าตรงข้อศอก-แล้วตีลูกยาวโยกไปมุมซ้ายของคู่ต่อสู้-แล้วตีลูกสั้นลงมุมขวาหน้าเน็ตแล้วตีอัดเข้าข้อศอกอีกครั้ง 

ครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ สอนว่า เวลาที่ตีปิงปองต้องฝึกตีให้เร็วกว่า แรงกว่า และแม่นยำกว่าคู่ต่อสู้เสมอ

บนโต๊ะปิงปองที่ใช้ฝึกที่ใต้ถุนอัฒจันทร์ยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติที่ปทุมวันสมัยนั้นมีเส้นขาวขีดไว้เป็นช่องๆไว้สำหรับเล็งตีให้ลงในช่องที่ต้องการ ถ้าตีได้เร็วกว่า แรงกว่า แต่ไม่แม่น ก็เหมือนกับตีลูกแล้วเสียคะแนน การฝึกจึงต้องเริ่มต้นจากการตีลูกช้าและไม่แรงนักก่อน พอตีได้แม่นยำแล้วครูจันทร์สอนให้ฝึกตีให้เร็วขึ้น พอลูกกระเด้งขึ้นมาได้ระดับเน็ตสูงพอจะตีข้ามเน็ตได้แล้วให้ตีเลยอย่ารอช้า จากนั้นให้เพิ่มความแรงและความหมุนของลูกมากขึ้นเรื่อยๆ คู่ฝึกซ้อมต้องคอยปรับจังหวะให้สามารถฝึกตีโต้กลับไปกลับมาได้หลายๆครั้ง ไม่ว่าจะตีโต้โฟร์แฮนด์หรือฝึกตีโฟร์แฮนด์สลับกับแบคแฮนด์ก็ต้องเร็วขึ้น แรงขึ้น และหมุนมากขึ้นไปเรื่อยๆโดยต้องยังคงตีได้อย่างแม่นยำด้วย

srichaiคุณศรีชัย วัจนเจริญรัตน์ กับโต๊ะปิงปองยี่ห้อ Dunlop อย่างดีที่ใช้ฝึกที่ใต้ถุนอัฒจันทร์ยิมเนเซียม 1
สังเกตปลายโต๊ะปิงปองที่มีเส้นสีขาวขีดเป็นทางม้าลายเอาไว้เป็นตำแหน่งที่ต้องฝึกตีให้ลงทุกลูก

นอกจากจะต้องเร็วกว่า แรงกว่า หมุนกว่า และแม่นยำกว่าคู่ต่อสู้แล้ว ยังต้องฝึกพลิกแพลงอีกหลายอย่าง สรุปได้ดังนี้

  1. เร็วกว่า บางลูกไม่ต้องรอให้กระเด้ง ให้ตีแบบ half-valley ในจังหวะที่ลูกตกบนโต๊ะได้เลย และต้องฝึกวางเท้าและขยับเท้าให้เร็ว
  2. แรงกว่า โดยฝึกถ่ายนำหนักตัวอย่างเต็มที่พร้อมกับ follow through ส่งลูกไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
  3. หมุนกว่า และปรับให้หมุนมาก หมุนน้อย หรือไม่หมุน และปรับทิศทางการหมุน
  4. เลียดเน็ต
  5. ตีลูกยาวลูกสั้น ลึกมากๆ หรือสั้นมากๆ
  6. โยกมุมซ้ายขวา
  7. รู้จักหลอกตำแหน่งการตี อย่าให้คู่ต่อสู้ไหวทันหรือคาดการณ์ได้ว่าเราจะตีไปทางไหนและตีอย่างไร

 

ทำไมจึงตีติดเน็ต ... หลายคนคงตอบว่าเพราะคว่ำหน้าไม้มากไปหรือไม่ก็เพราะเจอกับลูกที่หมุนแบคสปินมา ถ้าตอบเช่นนี้แสดงว่าลืมนึกถึงตัวแปรอย่างน้อยอีก 2 อย่าง นั่นคือ จังหวะที่ไม้กระทบลูกนั้นเป็นช่วงไหนที่ลูกกำลังกระเด้งออกจากโต๊ะ กับ แรงที่ตีโต้กลับไปได้แรงพอดีที่จะผลักลูกข้ามเน็ตกลับไปหรือไม่ หากรู้จักปรับจังหวะและความแรงให้ดี จะสามารถตีลูกข้ามเน็ตกลับไปได้เสมอต่อให้เป็นลูกแบคสปินหนักมากก็ตาม

สมมติว่ากำลังตีโต้ลูกที่ไม่หมุน โดยตั้งหน้าไม้รับให้ตั้งฉากกับพื้นและไม่ต้องออกแรงตีกลับ จะพบว่าถ้าตั้งไม้ให้กระทบลูกในจังหวะที่ลูกกระเด้งขึ้นจากโต๊ะ ลูกก็จะกระเด้งขึ้นจากไม้ แต่ถ้าตั้งไม้ให้กระทบลูกในจังหวะที่ลูกกระเด้งสูงสุด ลูกก็จะกระเด้งออกจากไม้ในแนวนอน แต่ถ้าตั้งไม้ให้กระทบลูกในจังหวะที่ลูกกระเด้งลง ลูกก็จะกระเด้งลงจากไม้returnFlatBall

คราวนี้หากใช้จังหวะที่ลูกลอยสูงสุดซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความเสี่ยงที่ลูกจะติดเน็ตน้อยที่สุด ออกแรงตีจากไม้กลับออกไปตามทิศทางของเส้นสีม่วง จะพบว่าลูกปิงปองจะกระเด้งออกจากไม้ตามเส้นสีเขียววิ่งข้ามเน็ตย้อนกลับไปได้โดยไม่ต้องคว่ำหน้าไม้แต่อย่างใด

returnBackSpin 

หากเข้าใจหลักการหาทิศทางของแรงผลลัพธ์จะสามารถตีให้ไม้กระทบลูกในจังหวะใดก็ได้เพียงรู้จักปรับหน้าไม้และออกแรงตีให้เหมาะสม ถ้าลูกแบคสปินมาหนักก็ต้องออกแรงตีขึ้นไปข้างหน้ามากขึ้น แต่ถ้าเป็นลูกแบคสปินที่ลอยมาสูงก็สามารถคว่ำหน้าไม้ตบได้เลย

หมายเหตุ

สามารถลดแรงที่เป็นผลจากลูกแบคสปินที่ลอยมา(เส้นสีดำ) โดยเลือกตีให้ใกล้กับหัวลูกซึ่งเป็นขั้วของการหมุนให้มากที่สุด เพราะที่จุดขั้วของการหมุนจะมีแรงจากการหมุนน้อยที่สุด และหวดหรือเคาะลูกออกไปจากหน้าไม้ให้เร็วเพื่อลดโอกาสที่พื้นที่หน้ายางจะปะทะเสียดสีกับลูกปิงปอง (หลักการนี้ใช้จัดการกับลูกหมุนได้ทุกประเภท)

"Loop beats chop, chop beats block, and block beats drive"

นี่เป็นสุภาษิตของนักปิงปองชาวจีน

ลูปชนะตัดแบคสปิน เพราะสามารถดึงตีโต้ลูกที่ตัดมา คู่ต่อสู้ที่เป็นมือตัดจะรับลูกที่ลูปหมุนเยอะๆได้ยาก

ตัดแบคสปินชนะบล้อค เพราะบล้อคจะรับลูกแบคสปินกลับไปติดเน็ต

บล้อคชนะการตบหรือท้อปสปิน เพราะสามารถใช้การตั้งหน้าไม้กระเด้งลูกกลับไปได้ง่ายๆ

(Loop ต่างจาก Drive ตรงที่ Loop เน้นความหมุนมากกว่าความแรง ส่วน Drive แม้เป็นการตีแบบท้อปสปินก็ตามแต่เน้นความแรงมากกว่าความหมุน)

ไม่ว่าจะใช้ Loop หรือ Drive ก็ตามต่างเป็นการตีแบบท้อปสปินเหมือนกัน ซึ่งถ้าเจอกับคู่ต่อสู้ที่บล้อคเก่งๆจะถูกคู่ต่อสู้บล้อคลูกโยกซ้ายโยกขวากลับมาได้เสมอ นักปิงปองที่ชอบตีท้อปสปินต้องฉลาดเล่นลูก Dummy Loop สลับกับลูกท้อปสปินตามปกติบ้าง คู่ต่อสู้ที่เอาแต่บล้อคพอเจอ Dummy Loop เข้าก็จะบล้อคติดเน็ต ไม่เช่นนั้นก็จะต้องออกแรงเหวี่ยงไม้ Loop แล้ว Loop อีกจนเหนื่อย

Dummy Loop เป็นการตีโต้ส่งลูกที่หมุนน้อยกว่าปกติหรือไม่หมุนกลับไป โดยใช้ท่าตีที่คู่ต่อสู้อ่านท่าไม่ออก ดูเผินๆก็เหมือนการตี Loop หรือท้อปสปินตามปกติ คู่ต่อสู้จึงปิดหน้าไม้กะว่าจะบล้อคลูกที่หมุนท้อปสปิน แต่เนื่องจากลูกไม่ได้หมุนมาอย่างที่คิด จึงรับลูกติดเน็ตเพราะปิดหน้าไม้มากเกินไป ควรใช้ Dummy Loop หลังจาก Loop ไปแล้ว 1-2 ครั้งเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ตายใจไม่ได้ระวัง

ท่าตี Dummy Loop ต้องทำให้ดูเหมือนท่าตีปกติ โดยอาจใช้จังหวะที่ไม้โดนลูกในวงเหวี่ยงในช่วงหลังจากที่สบัดข้อมือที่เคยใช้ในการปั่นลูกปิงปองให้หมุนมากๆ หรือเลือกให้ลูกกระทบหน้ายางใกล้ๆกับด้ามจับซึ่งมีแรงสบัดน้อยกว่าบริเวณกลางหน้าไม้ หรือใช้วิธีง่ายๆคือตีให้โดนลูกในจังหวะที่ต่ำกว่าโต๊ะซึ่งคู่ต่อสู้มองไม่เห็นว่าเราตีท่าอะไรกลับไป

ดังนั้นนอกเหนือจากการมองท่าทางการตีของคู่ต่อสู้แล้ว นักปิงปองต้องอ่านลูกให้ออกด้วยโดยสังเกตเสียงที่ลูกกระทบไม้ ความเร็วของลูกที่ลอยมา และความหมุนมากน้อยของลูกซึ่งดูได้จากตรายี่ห้อบนลูกปิงปอง

หมายเหตุ วิธีตีแบบ Duumy Loop นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากเป็นยุทธวิธีที่นักปิงปองใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว แต่ไม่ค่อยเห็นใครสอนกันนัก

เพื่อนนักปิงปองญี่ปุ่นเล่าให้ฟังว่า แค่นักปิงปองญี่ปุ่นเกรด C ก็ตีเอาชนะนักปิงปองทีมชาติของเราได้แล้ว ทีแรกนึกว่าเขาโม้ ต่อมาก็ต้องเชื่อเมื่อได้เห็นนักปิงปองญี่ปุ่นที่เล่นแบบมือรับมาเอาชนะนักปิงปองไทยที่การกีฬาแห่งประเทศไทยหัวหมากได้ทุกคน เพิ่งได้เห็นความสวยงามของการตีปิงปองคราวนี้เอง แทบทุกลูกที่เขาตีจะลอยต่ำเลียดเน็ตไปลงตรงเส้นสกัดปลายโต๊ะ ในขณะที่นักปิงปองไทยถูกเขาควบคุมเกมโยกไปโยกมาจนตั้งหลักไม่ทัน

การตีลูกให้ยาวลงที่ปลายโต๊ะจะช่วยควบคุมมุมที่คู่ต่อสู้สามารถตีโต้กลับมาได้ง่ายกว่าการตีลูกสั้น ดังนั้นนักปิงปองจึงต้องหมั่นซ้อมตีลูกให้ยาวลงใกล้เส้นสกัดปลายโต๊ะให้มากที่สุดและต้องลงตรงมุมโต๊ะอีกด้วย ยิ่งตีเข้ามุมได้มากเท่าใด คู่ต่อสู้จะตีโต้กลับมาได้ในทิศทางที่แคบลงเท่านั้น เราจึงสามารถคาดการณ์ได้ง่ายขึ้นว่าลูกจะถูกตีกลับมาลงตรงไหน

angle1

แต่ถ้าฝึกตีลูกที่เอาแต่แรงหรือหมุนเข้าว่าโดยไม่ได้ใส่ใจเรื่องความแม่นยำแล้ว การตีลงแถวๆกลางโต๊ะย่อมทำได้ง่ายที่จะตีโต้กันไปมาได้สนุก แต่เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่เร็วกว่าเขาย่อมฉวยโอกาสตีลูกโยกไปโยกมากลับมาหาเราได้ตลอด

angle2

นอกจากนี้ลูกที่ถูกตียาวลงปลายโต๊ะย่อมต้องใช้เวลาลอยบนอากาศนานกว่าลูกสั้น ช่วยทำให้เรามีเวลาพอสามารถเคลื่อนตัวไปตั้งหลักได้ทัน โดยเฉพาะหากต้องตีโต้ top spin ลูกระยะไกลจากโต๊ะมากขึ้น ก็ต้องตีลูกให้มีวิถีที่โค้งไม่เลียดเน็ตนักและตีให้ลงตรงปลายโต๊ะเพื่อซื้อเวลาตั้งหลักให้กับตัวเองด้วย

ผมชอบตีปิงปองเป็นชีวิตจิตใจ ถ้ามีเวลาว่างเมื่อใดเป็นต้องสวมชุดกีฬาหยิบไม้ไปตีปิงปองเสมอ รู้สึกว่าการตีปิงปองช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีคุณภาพที่ดีกว่าแต่ก่อนมาก ทุกวันนี้เล่นปิงปองเพื่อความสนุก เพื่อเป็นการออกกำลังกาย ไม่ได้เล่นเพื่ออยากจะลงแข่งขันเอาชนะใคร

ถ้าอยากเล่นปิงปองเพื่อมุ่งแต่การเอาชนะ เห็นหลายๆคนเปลี่ยนไปใช้ยางเม็ดสั้นบ้าง ยางเม็ดยาวบ้าง หรือใช้ยางเรียบแต่เป็นประเภท anti-spin บ้าง บางคนเห็นนักกีฬาจีนจับไม้จีนแล้วเป็นแชมป์เลยอยากจะเล่นไม้จีนตามเขาบ้าง ถ้าตีปิงปองแล้วมุ่งแต่เพื่อแข่งขันเพื่อเอาชนะคนอื่นแล้วถึงกับต้องเปลี่ยนยางให้อุบาทขึ้นหรือเปลี่ยนไปใช้ไม้จีน มันทำให้เล่นปิงปองไม่สนุกนักหรอก แต่ถ้าทำไปเพื่ออยากลองเพราะเล่นแบบเดิมมาจนเบื่อแล้วก็ว่าไปอย่าง

การจับไม้จีนทำให้ต้องตีด้าน forehand เป็นหลัก ถึงจะติดยางอีกข้างของหน้าไม้แล้วใช้ตีได้ก็ตาม แต่ก็ยังต้องอาศัยฟุตเวิร์คที่ดีมากเพื่อวิ่งไปตีลูกแทบทุกลูกด้วย forehand ถ้าขาไม่มีกำลังหรือขี้เกียจวิ่งและตีแบคแฮนด์ไม่คล่องโดยเฉพาะลูก block การจับไม้จีนจะเป็นช่องโหว่ให้ถูกโยกโดยไล่ตีให้ขยับตัวไปทางขวาเรื่อยๆแล้วจะถูกตีโยกอัดเข้าทางซ้ายมือซึ่งตีกลับด้วยไม้จีนลำบากมาก

อย่าหวังเป็นแชมป์ปิงปองเพราะเห็นคนจีนเล่นไม้จีนแล้วได้แชมป์ แค่แชมป์เมืองไทยก็แทบไม่เคยมีนักปิงปองที่ชนะเลิศประเทศไทยโดยใช้ไม้จีน

จีนเป็นต้นตำรับของไม้จีน แต่นักกีฬาส่วนใหญ่ของเขาไม่ได้จับไม้จีนกันแล้ว 

ยางเม็ดมักใช้กับมือรับเพื่อโต้กลับได้ลูกหมุนแบบแปลกๆกลับไปสร้างความปวดหัวให้กับคู่ต่อสู้ แต่เนื่องจากยางไม่มีแรงส่งลูกมากนัก ดังนั้นจึงเหมาะที่จะใช้กับมือรับมากกว่ามือบุก ถึงจะฝึกพลิกหน้าไม้ไปใช้ยางเรียบอีกข้างเพื่อบุกได้บ้าง พอเจอคู่ต่อสู้ที่บุกเก่งกว่า ตีลูกได้เร็วกว่า จะถูกตีลูกเร็วจนหมุนหน้าไม้ไม่ทัน

เมืองจีนไม่ยอมให้เด็กๆใช้ยางเม็ดจนกว่าจะโตแล้วเท่านั้นเพราะยากจะเรียนรู้วิธีตีปิงปองหลายๆแบบ

ถ้าโค้ชแนะนำให้ใช้ไม้จีนหรือใช้ยางเม็ดทั้งๆที่ตัวโค้ชเองไม่คุ้นเคยกับการใช้ไม้จีนหรือใช้ยางเม็ด น่าสงสัยว่าต่อไปจะฝึกสอนให้เก่งได้อย่างไร อาจมีสาเหตุแค่อยากให้มีนักปิงปองที่ใช้ยางเม็ดเพื่อประโยชน์ของนักปิงปองคนอื่นจะได้มีคู่ซ้อมที่ใช้ยางเม็ด จะได้ฝึกเอาชนะยางเม็ดกัน หรือจะได้อวดกับคนอื่นว่าตนสอนไม้จีนได้ด้วยนะ เก่งทุกอย่าง สอนได้ทุกอย่างเพื่อเพิ่มรายได้การสอนที่เป็นธุรกิจของตัวเอง

อย่าไปเชื่อใครที่แนะนำให้ใช้ไม้จีนหรือใช้ยางเม็ดตั้งแต่แรกเป็นอันขาด นักปิงปองที่เพิ่งเริ่มตีปิงปองควรฝึกจับไม้แบบสากลและติดยางแผ่นเรียบตามปกติที่คนส่วนมากใช้กัน จะพบว่าสามารถตีลูกเลี้ยวลูกโค้งหรือลูกแปลกพิสดารได้สารพัด จะรู้สึกว่าปิงปองเป็นกีฬาที่สนุก และเมื่อแข่งขันสามารถเอาชนะก็จะภูมิใจว่าชนะจากความสามารถของตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ได้ชนะเพราะใช้ยางปิงปองช่วย

ควรกำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจนว่า อยากเป็นนักปิงปองที่มีอาวุธหลักคืออะไร อยากเป็นมือท้อปหรือมือตบ เก่งแบคแฮนหรือจะเอาแต่ฉากตีด้วยโฟร์แฮนด์ จะได้มุ่งฝึกตามเป้าหมายนั้น

ปิงปองเป็นกีฬาที่อาศัยความรวดเร็วในการตีโต้กลับไปอย่างมาก พอลูกปิงปองกระเด้งออกจากไม้ไปแล้วต้องมีสมาธิติดตามดูพฤติกรรมของคู่ต่อสู้ว่าเขาจะตีกลับมาอย่างไรและย้อนกลับมาลงโต๊ะฝั่งของเราที่ตรงไหน เราจะต้องเคลื่อนตัวไปตั้งท่าเตรียมรับให้พร้อม กะระยะการวางเท้าห่างจากโต๊ะให้เหมาะ แล้วตัดสินใจตีกลับไปโดยไม่ต้องคิด เพราะคิดไม่ทันหรอกใช่ไหมว่าจะต้องตั้งหน้าไม้มากน้อยเพียงไร เหวี่ยงไม้ในทิศทางไหน จะกระทบลูกจังหวะที่ลูกกระเด้งขึ้นหรือจุดสูงสุดดี จะตีลูกกลับไปแรงหรือค่อย เลียดหรือโด่ง สั้นหรือยาว หมุนมากหรือหมุนน้อย จะให้ลงตรงไหนของโต๊ะหรือตีอัดเข้าตัวคู่ต่อสู้ดีกว่ากัน ขั้นตอนเหล่านี้ต้องเป็นไปในช่วงเสี้ยววินาที ไม่มีทางที่จะคิดทัน ด้วยเหตุเหล่านี้นักปิงปองจึงชอบฝึกโดยแข่งนับเกมกันเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นทางเดียวที่จะฝึกตีหลายๆท่าได้คล่อง พอถึงเวลาแข่งขันจริงก็เอาชนะได้เพียงเพราะตีได้แรงกว่า เร็วกว่า หมุนกว่า แต่ตอบไม่ได้เมื่อถูกถามว่าเอาชนะเขามาได้เพราะคู่ต่อสู้มีจุดอ่อนตรงไหน เราใช้ยุทธวิธีใดจึงเอาชนะเขามาได้

ในระหว่างการแข่งขันให้คิดวางแผนการตีในช่วงก่อนที่จะเสริฟหรือก่อนรับลูกเสริฟหรือระว่างพัก พอตีกันแล้วต้องตีโดยใช้จิตใต้สำนึก

จิตใต้สำนึกพัฒนาให้ดีขึ้นได้โดยการฝึกซ้อมลูกเบสิกให้มากจนกระทั่งคุ้นเคยสามารถตีลูกแปลกๆได้คล่อง ควรฝึกซ้อมส่งลูกโต้กันไปมาหลายๆแบบ เมื่อแข่งจริงแล้วลูกเข้าทางที่เคยฝึกมาก็สามารถตีโต้กลับไปได้อย่างชำนาญ ครูผู้ฝึกสอนควรป้อนลูกให้ตี (multi-ball) เพื่อซ้อมให้เก่งในท่าไม้ตายยิ่งขึ้น

หากยังใช้ท่าตีผิดพลาดอยู่ ไม่ควรใช้วิธีฝึกแบบ multi-ball หรือเอาแต่ซ้อมท่านั้นซ้ำแล้วซ้าอีกเพราะจะกลายเป็นท่าที่ใช้จิตใต้สำนึกตีจนติดเป็นนิสัย(เสีย)

ช่วงที่คู่ซ้อมยังไม่มา ควรฝึกตีลมโดยจินตนาการว่ากำลังตีโต้ลูกแบบนั้นแบบนี้เพื่อฝึกท่าเหวี่ยงและจังหวะการก้าวเท้า

ช่วงที่ไม่ได้ลงสนามฝึก ควรใช้สมองคิดจินตนาการถึงการตีปิงปอง สร้างภาพขึ้นในใจว่าถ้าเขาตีมาท่าทางแบบนี้จะตีโต้กลับไปอย่างไร ช่วงที่นั่งดูคนอื่นแข่งขันก็คิดว่าถ้าเป็นตัวเองจะตีกลับไปอย่างไร จะบุกเขาด้วยวิธีใด หาหนังสือปิงปองมาอ่านเพื่อฝึกสมองให้จินตนาการคิดตาม และเขียนบันทึกประจำวันเพื่อสอนตัวเองว่าต้องตีอย่างไรจึงจะดีขึ้น

เมื่อฝึกจิตใต้สำนึกให้คุ้นเคยกับการตีโต้ในสถานการณ์หลากหลายแบบแล้ว พอถึงเวลาแข่งขันจริงจะพบว่าสามารถคิดและตัดสินใจได้เร็วขึ้นจนเหมือนไม่ต้องคิด

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตีปิงปองแบบลองผิดลองถูกก็ไม่ต้องน้อยใจเพราะนักปิงปองส่วนใหญ่ฝึกตีปิงปองกันเองโดยไม่มีครู ส่วนคนที่มีครูก็ใช่ว่าทุกคนจะได้ครูที่มีความรู้จริง ครูบางคนพอเล่นเก่งเข้าแข่งขันเอาชนะได้เป็นแชมป์ก็อวดอ้างตนเองว่าเป็นครูแล้วเที่ยวสอนเก็บเงินคนนั้นคนนี้ให้ตีแบบนั้นแบบนี้ ดังนั้นจึงเหลือนักปิงปองที่มีเทคนิคการตีที่ถูกต้องอยู่น้อยมาก

นักปิงปองที่ตีได้ดีจนสามารถเอาชนะคนอื่นได้แล้วมักไม่อยากปรับท่าทางวิธีการตีของตัวเอง อ้างเข้าข้างตัวเองไปว่าที่ตัวเองตีได้นั้นก็ดีพออยู่แล้ว ไม่อยากเปลี่ยนท่าฝึกกันใหม่หรอก บอกว่าเปลี่ยนไปก็ไม่เห็นจะสนุกอะไร ทำไมต้องปรับวิธีจับไม้กันใหม่ ทำไมต้องย่อขาแล้วงอลำตัวด้วย ท่าทางที่ตัวเองใช้ก็ใช้ได้แล้วนี่นา บ้างก็อ้างเอาอายุของตัวว่าแก่เกินแก้ไขแล้ว มีอุปสรรคที่แขนขากล้ามเนื้อไม่มีหรือเอ็นยึดจนเหวี่ยงแขนแบบอื่นไม่ได้ ส่วนใหญ่ไม่อยากเรียนปิงปองเพราะไม่อยากเสียเงินเรียนกับครู คิดกันไปเองว่าเรียนปิงปองจากวิดีโอจากยูทูปก็ได้ ขอเป็นนักปิงปองที่เล่นแค่สนุกไปวันๆ

ถ้าวางแผนอนาคตไว้เพียงแค่เล่นปิงปองเพื่อหาความสนุกไปวันๆ ทุกวันนี้พอได้เห็นคนที่ตีปิงปองแบบนี้แล้วเกิดความรู้สึกน่าอิจฉาเขามาก แค่ตีลูกปิงปองให้ข้ามโต๊ะ โยกซ้ายโยกขวาเป็นพอจะหลอกคู่ซ้อมได้ก็สนุกสนานแล้ว ในอดีตของผมสมัยที่ยังเป็นเด็กประถมก็เล่นปิงปองแบบสนุกๆเหมือนคนอื่น แต่พอเจอนักปิงปองรุ่นพี่ที่เรียนชั้นมัธยม "โอ้โฮ มีลูกหมุนที่รับแล้วลูกกระเด้งออกไปไม่ลงโต๊ะด้วยหรือ แค่ตีมาลูกก็โค้งเลี้ยวจนหัวหมุน" ผมก็อยากตีปิงปองให้ได้แบบรุ่นพี่คนนี้บ้าง พอเรียนขั้นมัธยมก็ท้าตีกับนักปิงปองมือมหาวิทยาลัย โชคดีที่ได้ฝึกเรียนปิงปองกับครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ ได้เห็นการฝึกซ้อมของนักปิงปองที่มีอายุรุ่นเดียวกันว่าเขาเหนือชั้นกว่าตัวผมเองขนาดไหน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่าตัวเองต้องตีให้ได้แบบเขาบ้าง

การฝึกช่วงที่ต้องเปลี่ยนท่าตีตามที่ครูจันทร์แนะนำนั้นไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อน จะตีแบบที่เคยตีท่าเดิมๆไม่ได้แล้ว แต่พอตีท่านั้นๆได้ก็พบว่าปิงปองเป็นกีฬาที่สนุกมาก ปิงปองไม่ใช่แค่ตีลูกปิงปองให้ข้ามเน็ตแล้วลงโต๊ะเท่านั้น ยังต้องหาทางควบคุมพฤติกรรมของคู่ต่อสู้ให้ได้ แทนที่จะคิดแค่เอาชนะแต้มก็คิดตั้งหลักว่าต้องชนะคนด้วย การเอาชนะคนอื่นไม่ได้หยุดอยู่เพียงตีไปให้คู่ต่อสู้รับไม่ได้ ถ้าหาทางทำให้คู่ต่อสู้ตีเสียเองน่าสนุกและท้าทายกว่าเป็นไหนๆ

การวางแผนอนาคต แรกสุดต้องตั้งหลักไว้ก่อนว่าตัวเองจะเล่นปิงปองแบบไหน จะเป็นมือตบ มือท้อป มือบล้อก มือรับ จากนั้นก็ฝึกลูกเสริฟที่เหมาะกัน เช่น ถ้าอยากเป็นมือตบก็ต้องฝึกเสริฟลูกท้อปสปินให้คล่อง พอคู่ต่อสู้รับมาจะได้เปิดเกมเร็วได้ถนัด หรือถ้าอยากเป็นมือท้อปก็ต้องฝึกเสริฟลูกแบ้คสปิน เพราะคู่ต่อสู้มักรับแบบแบ้คสปินกลับมาจะได้ท้อปสวนกลับไป

ฝึกท่าที่ใช้ถนัดที่สุดให้เป็นอาวุธหลักสำหรับชนะเอาคะแนน ถ้าเจอคู่ต่อสู้ที่เก่งพอๆกันก็ต้องใช้อาวุธรองที่เขาตีไม่คล่อง

ปีแรกอาจฝึกเน้นที่อาวุธหลัก พอคล่องแล้วก็ฝึกตีท่าอื่นให้เป็นอาวุธรอง เช่น ช่วงแรกฝึกตบกับบล้อค พอคล่องแล้ว ปีถัดไปให้ฝึกท้อปหรือ loop ลูกหมุนไปมากๆ พอคู่ต่อสู้รับมาก็เป็นลูกโด่งที่ตบทำคะแนน นอกจากนั้นต้องฝึกทุกท่าให้เป็นจะได้มีอาวุธสำรองเผื่อไว้ใช้ในยามคับขัน

คุณมีอาวุธหลัก อาวุธรอง และอาวุธสำรองแล้วหรือยัง ...

ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทใด การแข่งขันทำให้รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัย ได้เรียนรู้ว่าการแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ความผิดหวังจากการพ่ายแพ้จะช่วยทำให้เป็นคนที่รู้จักอดทน และขวยขวายหาทางปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ต่างจากคนที่ไม่เคยเล่นกีฬา พอเกิดความผิดหวังในชีวิตอาจคิดมากจนถึงขั้นทำร้ายตัวเองก็มี

การแพ้ชนะในการแข่งขัน ไม่ควรจบแค่รู้ว่าแพ้หรือชนะ แต่ต้องรู้ด้วยว่าตัวเองแพ้หรือชนะเพราะเหตุใด ควรตั้งใจหาวิธีการเอาชนะคู่ต่อสู้อย่างมีเหตุผล ถ้าแพ้ก็เพราะเอาชนะเขาไม่ได้หรือเพราะเขาเอาชนะเราได้ด้วยวิธีใด

แทนที่จะตีปิงปองแข่งขันแบบวัดดวง เอาแรงเข้าว่าหรือตีแต่แบบที่ตัวเองถนัด ควรคิดหาทางตีไปแล้วคู่ต่อสู้ตีกลับได้ไม่ถนัดต่างหาก เกมแรกใช้เป็นสนามทดลองทดสอบคู่ต่อสู้ว่าเขามีจุดอ่อนอะไรบ้าง ชอบหรือไม่ชอบรับลูกแบบใด ส่วนใหญ่เขาเสริฟลูกหนักหรือเบา มีอะไรที่เขาเหนือกว่าหรือด้อยกว่าบ้าง

อ่านคู่ต่อสู้ให้ละเอียดตั้งแต่วิธีจับไม้แสดงว่าถนัดตีข้างไหนกว่ากัน การตั้งท่าทางตีลูก ยืนห่างหรือใกล้ ตีลูกได้แรงแค่ลูกเดียวแล้วเสียหลักเปิดช่องโหว่ทางไหน สังเกตพฤติกรรมของคู่ต่อสู้ที่ใช้ในการรับลูกประเภทต่างๆ เช่น ถ้าตีลูกตัด backspin ออกไป เขาชอบใช้วิธีใดรับกลับมา ใช้ฟุตเวิร์คก้าวเท้าอย่างไร

อย่ามองข้างเดียวว่า ทำไมตัวเองจึงตีแพ้หรือชนะ แต่ให้มองด้วยว่าทำไมเขาจึงตีชนะหรือแพ้เรา เขาชอบหรือไม่ชอบตีลูกอะไร

แม้ปิงปองจะเล่นกันเร็วจนเหมือนไม่มีเวลาให้คิด แต่นักปิงปองต้องคิดสูตรวิธีการตีปิงปองที่จะใช้ทำคะแนนแต่ละลูกไว้เสมอว่าจะเริ่มจากเสริฟอย่างไรแล้วจะตามด้วยการตีอย่างไรเพื่อหาทางควบคุมเกมให้คู่ต่อสู้ต้องเล่นไปตามแผนที่คุณวางไว้ พอเสริฟไปแล้วตีไปแล้วก็ไม่มีเวลาให้คิดแล้วล่ะ ต้องตีโต้กันตามที่ฝึกมาโดยไม่ต้องคิด

ตามปกติถ้าเสริฟลูกสั้นแบบ backspin หนักๆ คู่ต่อสู้มีทางเลือกไม่มากในการรับลูกประเภทนี้ ถ้าลูกเสริฟสั้นมากๆย่อมไม่มีทางที่จะตี topspin เพราะไม่มีระยะห่างจากโต๊ะพอให้เหวี่ยงไม้ ดังนั้นคู่ต่อสู้มักจะใช้รับด้วยการตี backspin กลับมา

ถ้าคุณเสริฟสั้นเกินไป คู่ต่อสู้ก็จะตี backspin หยอดกลับ ซึ่งเท่ากับว่าคุณไม่ได้ประโยชน์จากการเสริฟแม้แต่น้อย คุณจะบุกกลับก็ไม่ได้เพราะลูกสั้นมาก แต่ถ้าลูกที่เสริฟไปนั้นไม่ยาวไม่สั้นเกินไป คู่ต่อสู้จะรับกลับมาด้วยการ topspin ก็ไม่ได้หรือจะหยอดลูกกลับมาก็ไม่ได้ลูกสั้นเสียอีก คู่ต่อสู้จำเป็นต้องใช้วิธีตี backspin หรือ flip สวนกลับมา กลายเป็นลูกที่ยาวพอที่คุณสามารถเปิดเกมบุกในไม้สาม

แต่ถ้าคุณ topspin ไม่เก่งล่ะ การเสริฟลูก backspin จะกลับกลายเป็นการเพิ่มปัญหาให้ตัวเอง เพราะในไม้สามเมื่อคุณไม่สามารถ topspin ลูกที่หมุนแบบ backspin เพื่อเปิดเกมบุกกลับไปได้แรงๆ คู่ต่อสู้ก็สามารถฉวยโอกาสบุกมาก่อน ซึ่งสูตรการตีปิงปองแบบนี้มักพบเห็นนักปิงปองผู้หญิงนิยมใช้กัน จิ้มกันไปจิ้มกันมา พอลูกโด่งหน่อยก็จะตบ เป็นสูตรการตีปิงปองที่เห็นใช้กันจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา

สูตรการตีปิงปองสำหรับคนที่ topspin ไม่เก่ง ควรเลือกเสริฟลูกหมุนแบบ topspin, sidespin, หรือลูกไม่หมุน แทนการเสริฟ backspin และอย่าเสริฟลูกสั้นเกินไป เพื่อทำให้คู่ต่อสู้ยากที่จะรับแบบ backspin กลับมา

สมมติต่อไปว่า คุณ topspin ไม่เก่งและคู่ต่อสู้รับลูก backspin ไม่เก่งชอบตีติดเน็ตเป็นประจำ ก็จำเป็นต้องเสริฟ backspin เพื่อทำคะแนน แต่บางครั้งเขา backspin ข้ามเน็ตกลับมาได้จะทำอย่างไรดี คุณจะ topspin กลับไปก็ไม่ถนัดเพราะลูกสั้นมาก ก็จำเป็นต้อง flip หรือปั่นลูกหมุนแบบ sidespin ย้อนกลับไปแทน นี่แสดงว่าคุณต้องตี flip เป็นด้วยนะ

ถ้าคุณ topspin พอใช้ได้แต่มีฟุตเวิร์คเคลื่อนไหวตัวไม่ดีนักหรือช้ากว่าคู่ต่อสู้ ไม้สามก็ไม่ควร topspin drive แบบแรงเร็วๆกลับไปเพราะคู่ต่อสู้จะ block ย้อนมาเร็วตาม โดยให้ใช้ slow loop ที่หมุน topspin มากกว่าแรงกลับไปดีกว่า จะช่วยทำให้คุณมีเวลาตั้งหลักทัน

หากคุณเป็นฝ่ายรับลูกที่เสริฟ backspin มาก็ไม่ควรรับ backspin กลับไป ไม้สองควรใช้ flip ตามด้วย loop ในไม้สี่

ตัวอย่างข้างต้นน่าจะเป็นแนวทางให้คิดสูตรการตีปิงปองให้เหมาะกับวิธีตีปิงปองที่คุณถนัด อย่ามัวแต่เลียนแบบแชมป์ที่เสริฟลูกยากๆที่ทำให้ตัวคุณเองต้องตีลูกต่อไปยากตามไปด้วย

คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ลงแข่งปิงปองเจอกับคู่แข่งที่ไม่เห็นจะตีได้ดีกว่าสักเท่าใดแต่กลับแข่งแพ้เขาอย่างไม่เป็นท่า หรือพอเริ่มเสียคะแนนให้กับคู่แข่งที่เด็กกว่า หัวใจก็จะเต้นแรงขึ้น เกร็งมือไม้จนตีไม่ออก พอแข่งแพ้แล้วก็เดินออกมาบ่นว่า วันนี้ตีไม่ออก วันนี้ตีไม่ดี และแล้วพอเจอกับคู่แข่งเช่นนี้อีกก็ยังคงแพ้เขาเหมือนเดิม นี่แสดงว่าที่แพ้นั่นไม่ได้ขึ้นกับฝีมืออย่างเดียวหรอกนะ หากขึ้นกับวิธีคิดที่จะตีปิงปองอีกด้วย

จากการวิจัยพบว่า ความสนุกเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะของแชมป์ เวลาฝึกก็ต้องคิดให้เหมือนกับว่ากำลังแข่งขัน มีความคิดและรู้สึกว่าตีปิงปองนี่สนุกมาก ยิ่งพบกับคู่แข่งหลากหลายมากเท่าใด ยิ่งรู้สึกสนุกและท้าทายที่ได้ลองตีปิงปองให้เต็มที่

พยายามรักษาการตีให้คงเส้นคงวาไว้ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใคร

  • ถ้าคู่แข่งเก่งกว่า ต้องคิดหาทางตีลูกย้ำไปที่จุดอ่อนที่สุดของเขาให้ได้ตามแผนเท่าที่จะเป็นได้
  • ถ้าคู่แข่งด้อยกว่า ต้องพยายามตีลูกที่ชำนาญให้เสียน้อยที่สุดและเสียน้อยกว่ามาตรฐานเดิมของตัวเอง

ให้สนใจวิธีการเล่นโดยไม่ต้องสนใจกับผลแพ้ชนะ อย่าสนใจว่าต้องตีให้ดีเพื่อให้คนรอบข้างชมหรือเพื่อคุณพ่อคุณแม่หรือโค้ชจะได้ไม่ผิดหวัง

ซึ่งนอกเหนือจากการตีปิงปองเพราะความสนุกและท้าทายของตัวเองแล้วยังมีปัจจัยสำคัญอื่นอีกที่จะนำไปสู่ชัยชนะ ได้แก่

  1. สามารถผสมใช้ความชำนาญสามารถตีลูกได้หลากหลายร่วมกับความท้าทายได้อย่างสมดุล
  2. มีความมั่นใจในการตี
  3. มีสมาธิจดจ่อกับการตี ไม่สนใจกับสิ่งเร้าภายนอก
  4. มีเป้าหมายแผนการเล่นที่ชัดเจน
Go to top